ถ้าคุณเคยสับสนเวลาเจอประโยคอย่าง I have finished. หรือ She has lived here for ten years. แล้วไม่แน่ใจว่าจะจัดอยู่ในกาลเวลาไหน บทความนี้จะช่วยคลี่คลายทุกอย่างเกี่ยวกับ โครงสร้าง present perfect แบบเป็นขั้นตอน อ่านจบแล้วคุณจะเข้าใจว่ากาลนี้คืออะไร ใช้เมื่อไหร่ แตกต่างจากกาลอดีตธรรมดาอย่างไร และจะสร้างประโยคถูกต้องได้อย่างไร ทั้งในประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถาม พร้อมตัวอย่างที่ใกล้ชีวิตประจำวัน เทคนิคจำง่าย ๆ ตารางเปรียบเทียบ และแบบฝึกฝนสั้น ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณกล้าใช้ present perfect ในการพูดและเขียนจริง ไม่ใช่แค่จำสูตรอย่างเดียว

ภาพรวมโครงสร้าง present perfect ที่ควรรู้ก่อนเริ่ม
ก่อนจะลงลึกในรายละเอียด มาดูภาพรวมของ present perfect กันก่อนว่าแท้จริงแล้วกาลนี้ใช้เพื่อเชื่อม “อดีต” กับ “ปัจจุบัน” คือพูดถึงสิ่งที่เริ่มในอดีต แต่ผลหรือความสำคัญยังเกี่ยวข้องกับตอนนี้ เวลาค้นหาคำว่า present perfect คืออะไร หรือ present perfect ใช้ยังไง ส่วนใหญ่จะเจอสูตรคล้าย ๆ กัน คือ
- have/has + past participle (V3) เช่น I have eaten., She has seen that movie.
- มักใช้คู่กับคำบอกเวลาอย่าง already, yet, just, ever, never, for, since
- เน้น “ผลลัพธ์ในปัจจุบัน” หรือ “ประสบการณ์จนถึงตอนนี้” มากกว่าช่วงเวลาอดีตที่แน่นอน
จุดสำคัญคือ โครงสร้าง present perfect ไม่ได้เน้น “เมื่อไหร่” แต่เน้น “เกิดแล้ว และเกี่ยวกับตอนนี้อย่างไร” ถ้าเข้าใจภาพนี้ชัด การเรียนส่วนต่อไปจะง่ายขึ้นมาก
โครงสร้าง present perfect แบบละเอียดและเข้าใจง่าย
1. ประโยคบอกเล่า (Affirmative)
โครงสร้างพื้นฐานของประโยคบอกเล่าใน present perfect คือ
ประธาน + have/has + V3 + ส่วนขยาย
- I have finished my homework. — ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว
- She has visited Japan three times. — เธอเคยไปญี่ปุ่นมาแล้วสามครั้ง
- We have learned present perfect today. — วันนี้พวกเราได้เรียน present perfect แล้ว
หลักจำง่าย ๆ คือ ถ้าประธานเป็น I, you, we, they ใช้ have ถ้าเป็น he, she, it ให้ใช้ has จากนั้นตามด้วยกริยา V3 เสมอ
2. ประโยคปฏิเสธ (Negative)
โครงสร้างประโยคปฏิเสธคือ
ประธาน + have/has + not + V3 + ส่วนขยาย
- I have not (haven’t) finished my homework. — ฉันยังทำการบ้านไม่เสร็จ
- He has not (hasn’t) called me yet. — เขายังไม่ได้โทรหาฉันเลย
- They have not started the project. — พวกเขายังไม่เริ่มโปรเจกต์
ในการพูดสนทนาจริง มักใช้รูปย่ออย่าง haven’t / hasn’t จะฟังเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่เวลาเขียนสอบอาจเลือกใช้รูปเต็มตามข้อกำหนดของข้อสอบ
3. ประโยคคำถาม (Question)
รูปแบบคำถามของโครงสร้าง present perfect คือ
Have/Has + ประธาน + V3 + ส่วนขยาย ?
- Have you eaten yet? — คุณกินข้าวหรือยัง
- Has she finished the report? — เธอเขียนรายงานเสร็จหรือยัง
- Have they visited Chiang Mai before? — พวกเขาเคยไปเชียงใหม่มาก่อนหรือไม่
ถ้าเป็นคำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำถาม Wh- เช่น where, what, how long ให้เอาคำถามมาวางข้างหน้าสุด แล้วตามด้วยโครงสร้างเหมือนเดิม
- How long have you studied English? — คุณเรียนภาษาอังกฤษมานานแค่ไหนแล้ว
- What have you done today? — วันนี้คุณทำอะไรมาบ้าง
4. คำบอกเวลาที่ใช้กับ present perfect บ่อยที่สุด
การใช้คำบอกเวลาให้ถูกต้องช่วยให้โครงสร้าง present perfect ชัดเจนขึ้นมาก คำที่เจอบ่อย ได้แก่
- for + ระยะเวลา: for two years, for a long time
- since + จุดเวลา: since 2020, since last week
- already — ใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเร็วกว่าที่คิด
- yet — ใช้กับประโยคปฏิเสธและคำถาม
- just — ใช้เมื่อเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
- ever / never — ใช้พูดถึงประสบการณ์

เปรียบเทียบ present perfect กับ past simple แบบเห็นภาพ
อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตคือ “เมื่อไหร่ควรใช้ present perfect และเมื่อไหร่ควรใช้ past simple” เพราะทั้งสองกาลใช้พูดถึงอดีตเหมือนกัน ส่วนนี้จะช่วยให้คุณแยกแยะ present perfect vs past simple ได้ชัดขึ้น
| สถานการณ์ | ตัวอย่าง Present Perfect | ตัวอย่าง Past Simple | คำอธิบาย |
|---|---|---|---|
| พูดถึง “ประสบการณ์” | I have been to Japan. | I went to Japan in 2019. | Present perfect เน้น “เคยไปแล้ว” แต่ไม่ได้บอกปี Past simple ระบุเวลาชัดเจน |
| ผลที่เกี่ยวกับปัจจุบัน | She has lost her keys. | She lost her keys yesterday. | Present perfect เน้นผลตอนนี้ “ยังหาไม่เจอ” ส่วน Past simple เน้นเหตุการณ์เมื่อวาน |
| การกระทำที่เพิ่งจบ | We have just finished dinner. | We finished dinner at 7 p.m. | Present perfect บอกว่าเพิ่งกินเสร็จ ส่วน Past simple เพิ่มข้อมูลเวลาชัดเจน |
| เหตุการณ์ในอดีตจบไปแล้ว | ไม่ค่อยใช้ | They moved here last year. | ถ้าเหตุการณ์จบไปแล้วและไม่ได้เน้นผลในปัจจุบัน Past simple จะเหมาะกว่า |
สถานการณ์จริงที่ต้องใช้โครงสร้าง present perfect
1. ใช้พูดถึงประสบการณ์จนถึงตอนนี้
เวลาจะเล่าประสบการณ์ชีวิต เช่น เคยไปที่ไหน ทำอะไรมาบ้าง มักใช้โครงสร้าง present perfect เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งหรืออย่างน้อยหนึ่งครั้ง และยังมีความหมายต่อปัจจุบัน
- I have travelled to Korea three times. — ฉันเคยไปเกาหลีมาแล้วสามครั้ง
- She has never tried sushi. — เธอไม่เคยลองซูชิเลย
- Have you ever joined an English camp? — คุณเคยเข้าค่ายภาษาอังกฤษไหม
2. ใช้เน้นผลลัพธ์ในปัจจุบัน
ถ้าอยากเน้นว่า ตอนนี้เกิดผลบางอย่างขึ้นแล้ว เพราะเหตุการณ์ในอดีต โครงสร้าง present perfect จะเหมาะมาก เช่น
- I have finished the report, so you can read it now. — ฉันเขียนรายงานเสร็จแล้ว ตอนนี้คุณอ่านได้เลย
- They have moved to a new office. — ตอนนี้พวกเขาย้ายไปออฟฟิศใหม่แล้ว
- The movie has started. — หนังเริ่มแล้ว (ตอนนี้กำลังฉายอยู่)
3. ใช้กับเหตุการณ์ที่เริ่มในอดีตและต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
ถ้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเริ่มขึ้นในอดีต และยังดำเนินอยู่จนถึงตอนนี้ มักใช้โครงสร้าง present perfect ร่วมกับ for / since
- I have studied English for three years. — ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 3 ปีแล้ว
- She has worked here since 2020. — เธอทำงานที่นี่ตั้งแต่ปี 2020
- We have known each other since high school. — เรารู้จักกันมาตั้งแต่มัธยม
4. ใช้บอกเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
เมื่อต้องการสื่อว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน มักใช้ present perfect ร่วมกับคำว่า just
- He has just left. — เขาเพิ่งออกไปเมื่อกี้
- I have just seen your message. — ฉันเพิ่งเห็นข้อความของคุณ
เทคนิคจำโครงสร้าง present perfect สำหรับผู้เริ่มต้น
การจำเพียงสูตรมักไม่พอสำหรับการนำไปใช้จริง โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นที่ยังไม่คุ้นกับ tense ภาษาอังกฤษ ส่วนนี้จะรวบรวมเทคนิคที่ใช้ได้จริงทั้งในห้องเรียนและการฝึกด้วยตัวเอง
1. ใช้สูตร “H + V3 + ผลลัพธ์ตอนนี้”
ลองจำภาพง่าย ๆ ว่า present perfect มีส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ
- H = have/has
- V3 = กริยาช่องที่ 3
- ผลลัพธ์ตอนนี้ = สิ่งที่เปลี่ยนแปลงแล้วในปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น
- I have eaten. — ฉันกินแล้ว (ตอนนี้ไม่หิว)
- She has broken her phone. — เธอทำโทรศัพท์พัง (ตอนนี้ใช้ไม่ได้)
2. ฝึกกับคำกริยา 20 คำแรกให้คล่อง
งานวิจัยด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษระบุว่า การรู้คำศัพท์พื้นฐานกลุ่มแรก ๆ และรูปผันของมันช่วยให้เข้าใจภาษาในชีวิตประจำวันได้สูงมาก หากคุณเลือกกริยาไม่กี่คำแล้วฝึกทำ present perfect ซ้ำ ๆ จะช่วยให้โครงสร้างติดหัวได้เร็วขึ้น
- go – went – gone
- do – did – done
- eat – ate – eaten
- see – saw – seen
- write – wrote – written
ลองแต่งประโยคง่าย ๆ เช่น
- I have gone to the gym.
- She has done her homework.
- We have seen that movie.
3. ใช้แฟลชการ์ด (Flashcards) และตารางสรุป
คุณสามารถทำแฟลชการ์ดสำหรับกริยาแต่ละคำ โดยด้านหนึ่งเขียน V1 และอีกด้านหนึ่งเขียน V2/V3 แล้วลองท่องผสมกับการแต่งประโยค present perfect จากคำศัพท์แต่ละใบ การใช้รูปแบบนี้สอดคล้องกับงานของผู้เชี่ยวชาญด้านคำศัพท์ที่ย้ำว่าการเรียนจากรายการคำและการทบทวนซ้ำ ๆ ช่วยให้จำได้ยั่งยืน

กรณีศึกษาและผลลัพธ์จริงจากการฝึกใช้ present perfect
กรณีศึกษาที่ 1: จาก “ไม่กล้าแต่งประโยค” สู่การเล่าเรื่องชีวิตด้วย present perfect
นัทเป็นผู้เรียนวัยทำงานที่เคยบอกว่าตัวเอง “จำสูตร tense ไม่ได้เลย” เวลาต้องพูดภาษาอังกฤษมักใช้แต่ประโยคสั้น ๆ อย่าง I go, I work โดยไม่กล้าเล่าเรื่องประสบการณ์ในอดีต ครูผู้สอนที่มีใบประกาศนียบัตรด้านการสอนภาษาอังกฤษต่างประเทศ (TESOL) เริ่มจากการให้เขาเล่าเรื่องชีวิตเป็นภาษาไทย เช่น เคยไปไหนมาบ้าง เคยทำอะไรสำเร็จ แล้วค่อยช่วยแปลงเป็น present perfect ทีละประโยค
- สัปดาห์ที่ 1–2: ฝึกใช้โครงสร้าง I have… กับกริยา 10 คำหลัก
- สัปดาห์ที่ 3–4: ฝึกเล่า “ประสบการณ์แรกในชีวิต” ด้วย present perfect เช่น I have flown by plane.
- สัปดาห์ที่ 5–6: ฝึกตอบคำถาม Have you ever…? แบบโต้ตอบ
หลังจากเรียนต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ นัทสามารถใช้ประโยคอย่าง I have changed my job three times. หรือ I have visited many countries in Asia. ได้อย่างมั่นใจ และเริ่มรู้สึกว่าการใช้ tense นี้ไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป
กรณีศึกษาที่ 2: นักเรียนระดับเริ่มต้นที่ต้องเตรียมสอบสัมภาษณ์
เบลเป็นผู้เรียนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์งานออนไลน์ จุดอ่อนคือไม่รู้จะเล่า “ประสบการณ์ทำงาน” เป็นภาษาอังกฤษอย่างไร ครูที่ถือใบ TESOL ได้ออกแบบบทเรียนเน้นโครงสร้าง present perfect โดยเฉพาะ ใช้คำถามสัมภาษณ์จริง เช่น
- How long have you worked in this field?
- What projects have you completed recently?
จากเดิมที่ตอบไม่ได้เลย เบลเริ่มตอบได้เป็นประโยคยาว ๆ ภายในหนึ่งเดือน เช่น I have worked in customer service for five years., I have handled many difficult clients. ทำให้ความมั่นใจในการสัมภาษณ์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ฝึกโครงสร้าง present perfect ออนไลน์กับครูที่มีคุณวุฒิ
นอกจากการฝึกด้วยตัวเอง การเรียนกับครูที่มีประสบการณ์และมีใบประกาศนียบัตรสากล เช่น TESOL (Teaching English to Speakers of Other Languages) จะช่วยให้คุณรับคำแนะนำที่ถูกต้อง แก้จุดผิดซ้ำ ๆ และได้ฝึกใช้ present perfect ในสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงของจริง
มาตรฐานทั่วไปที่ใช้กันคือหลักสูตร TESOL อย่างน้อย 120 ชั่วโมง ซึ่งเน้นทั้งทฤษฎีการสอนและการออกแบบกิจกรรมให้ผู้เรียนสามารถนำภาษาไปใช้ได้จริง การเลือกครูที่ผ่านการอบรมลักษณะนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าบทเรียนมีโครงสร้างและได้รับการออกแบบมาอย่างเป็นระบบ
หากมองหาแพลตฟอร์มเรียนสดแบบตัวต่อตัวที่มีฐานอยู่ในไทย 51Talk Thailand เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่น เนื่องจากครูต่างชาติที่สอนผ่านระบบได้รับการคัดเลือกและอบรมอย่างเข้มงวด หลายคนมีประกาศนียบัตรด้านการสอนภาษาอังกฤษระดับสากล บทเรียนถูกออกแบบให้ต่อเนื่องตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูง และเน้นการใช้ภาษาในสถานการณ์จริง ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสฝึกใช้โครงสร้าง present perfect ไปพร้อมกับ tense อื่น ๆ ในบทสนทนา
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเมื่อใช้โครงสร้าง present perfect
- ใช้เวลาแบบเจาะจงกับ present perfect
เช่น ✗ I have seen that movie yesterday.
ควรเปลี่ยนเป็น Past simple: ✓ I saw that movie yesterday. - สลับใช้ have/has ผิดกับประธาน
เช่น ✗ She have finished. ควรเป็น ✓ She has finished. - ใช้ V2 แทน V3
เช่น ✗ I have went. ควรเป็น ✓ I have gone. - ลืมใช้ ever/never เมื่อพูดถึงประสบการณ์
เช่น ✗ I have been to Korea? (ตั้งใจถามว่าเคยไปไหม)
ควรเป็น ✓ Have you ever been to Korea?
ทางแก้คือ ลองทำ “สมุดรวมข้อผิดพลาดส่วนตัว” จดประโยคที่เคยเขียนผิด แล้วเขียนเวอร์ชันที่ถูกไว้คู่กัน ทบทวนทุกสัปดาห์ คุณจะเห็นพัฒนาการชัดเจน โดยเฉพาะเรื่อง tense ที่มักสับสน
ลิงก์ภายในที่แนะนำสำหรับการต่อยอดการเรียน
ถ้าคุณต้องการวางพื้นฐานภาษาอังกฤษให้แน่นก่อนต่อยอดเรื่องโครงสร้าง present perfect และ tense อื่น ๆ สามารถอ่านบทความต่อไปนี้บนเว็บไซต์เดียวกันได้เลย
- เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้น จนพูด อ่าน เขียนได้จริง
- รวมเนื้อหาที่เรียนภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น
- แพ็กเกจเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานปี 2025 | ดาวน์โหลดฟรี + คู่มือเรียนครบเซ็ต
- 10 เว็บไซต์ฝึกภาษาอังกฤษฟรี ที่คนไทยใช้มากที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโครงสร้าง Present Perfect
1) จะพูดว่า “ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 3 ปีแล้ว” เป็น present perfect อย่างไร
ประโยคที่ถูกคือ I have studied English for three years. ใช้โครงสร้าง have + V3 และใช้ for + ระยะเวลา เพื่อบอกว่าการเรียนเริ่มในอดีตและยังต่อเนื่องมาถึงตอนนี้
2) ต่างกันอย่างไรระหว่าง “I have gone to work.” กับ “I have been to work.”
I have gone to work. หมายถึง “ไปแล้วและยังไม่กลับมา” เน้นว่าตอนนี้คน ๆ นั้นไม่อยู่ที่นี่ ส่วน I have been to work. มักใช้สื่อว่า “เคยไปที่ทำงานมาแล้ว” หรือ “ไปมาแล้วและกลับมาแล้ว” จึงใช้ต่างบริบทกัน
3) ใช้ present perfect กับคำว่า yesterday ได้ไหม
โดยทั่วไปไม่ใช้ present perfect คู่กับคำที่ระบุเวลาอดีตชัดเจน เช่น yesterday, last year, in 2020 ถ้ามีคำเหล่านี้ควรใช้ Past simple เช่น I went there yesterday. มากกว่า
4) ถ้าจะบอกว่า “ฉันเพิ่งกินข้าวเสร็จ” ควรใช้ tense ไหน
สามารถใช้ present perfect ร่วมกับ just เป็น I have just had lunch. หมายถึงเพิ่งกินเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ และผลคือ “ตอนนี้อิ่มอยู่”
5) ควรเริ่มฝึกโครงสร้าง present perfect ยังไงดีสำหรับผู้เริ่มต้น
เริ่มจากจำโครงสร้างพื้นฐานให้แม่น (have/has + V3) เลือกกริยาไม่กี่คำที่ใช้บ่อย เช่น go, do, eat, see แล้วฝึกแต่งประโยคเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง จากนั้นลองตอบคำถาม Have you ever…? เกี่ยวกับประสบการณ์จริงของคุณ และถ้ามีโอกาส ควรฝึกพูดกับครูออนไลน์ที่ช่วยแก้ไขให้แบบตัวต่อตัว
ข้อมูลจริงและความน่าเชื่อถือของแนวทางการเรียน
รายงานดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษ (EF English Proficiency Index) ปีล่าสุดระบุว่า คะแนนเฉลี่ยภาษาอังกฤษของผู้ใหญ่ในไทยอยู่ในระดับ “ต่ำมาก” และจัดอันดับอยู่ราวท้ายตารางเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าการวางพื้นฐานไวยากรณ์ เช่น โครงสร้าง present perfect ยังเป็นโจทย์สำคัญสำหรับผู้เรียนจำนวนมาก
ด้านงานวิจัยด้านคำศัพท์และการเรียนภาษา พบว่าการจัดโครงสร้างบทเรียนให้ผู้เรียนได้ฝึกทั้งคำศัพท์พื้นฐาน การอ่าน การเขียน และการใช้รูปประโยคในสถานการณ์จริง ช่วยเพิ่มโอกาสในการจดจำได้ดีขึ้นกว่าการท่องจำเพียงอย่างเดียว การผสมผสานแบบฝึกหัด การทบทวน และการพูดกับครูหรือคู่สนทนาจริงจึงเป็นแนวทางที่มีหลักฐานรองรับ
ข้อควรรู้เพิ่มเติมและคำแนะนำสุดท้าย
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางการใช้โครงสร้าง present perfect สำหรับผู้เรียนทั่วไป เนื้อหาไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อทดแทนตำราทางการหรือข้อสอบมาตรฐานใด ๆ การนำไปใช้ควรพิจารณาร่วมกับระดับภาษาและเป้าหมายของแต่ละคน หากต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริบทที่เป็นทางการมาก เช่น การทำรายงานวิชาการ หรือการสื่อสารในองค์กรขนาดใหญ่ ควรปรึกษาครูผู้สอนหรือผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
การฝึกอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการรับคำแนะนำจากครูที่มีประสบการณ์และคุณวุฒิด้านการสอนภาษาอังกฤษ เช่น TESOL จะช่วยให้คุณใช้ present perfect และ tense อื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจและถูกต้องมากขึ้นในระยะยาว
แหล่งอ้างอิงและเอกสารเพิ่มเติม
- EF English Proficiency Index 2023. รายงานดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก. เข้าถึงได้จาก https://www.ef.com/epi/
- Nation, P. (2022). Learning Vocabulary in Another Language. Cambridge University Press.
- Cambridge Dictionary. “Present perfect simple (I have worked).” เข้าถึงได้จาก Cambridge Grammar – Present perfect simple
- British Council. “Present perfect.” แหล่งอธิบายการใช้ present perfect พร้อมตัวอย่าง. British Council – Present perfect
- TESOL International Association. มาตรฐานและแนวทางด้านการสอนภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่. https://www.tesol.org/








