สรุปชัด! Have/has Had ใช้ ยัง ไง ให้ถูกต้อง เข้าใจง่าย

สรุปชัด! Have/has Had ใช้ ยัง ไง ให้ถูกต้อง เข้าใจง่าย
  • ธันวาคม 23, 2025

เคยไหมครับ? ที่นั่งมองประโยคภาษาอังกฤษแล้วเกิดคำถามในใจว่า “ตกลงตรงนี้ต้องใช้ Have, Has หรือ Had กันแน่?” ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับเด็กๆ ที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ผู้ใหญ่หลายคนที่ทำงานแล้ว หรือแม้กระทั่งคนที่พอมีพื้นฐานมาบ้าง ก็ยังสับสนและใช้ผิดกันอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมันไปโผล่อยู่ใน Tense ยากๆ หรือประโยคที่ซับซ้อน

ในฐานะที่ผมคลุกคลีอยู่กับการสอนภาษาอังกฤษเด็กและผู้เริ่มต้นมานานกว่า 10 ปี เห็นพัฒนาการของนักเรียนมานับไม่ถ้วน ผมกล้ายืนยันเลยว่า กุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกความเข้าใจเรื่องนี้ ไม่ใช่การท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่คือการเข้าใจ “หน้าที่” ของมันจริงๆ วันนี้ผมจะมาแชร์เคล็ดลับและสรุปให้เห็นภาพชัดเจนที่สุดว่า Have/has Had ใช้ ยัง ไง ให้ถูกต้อง แบบที่อ่านจบแล้วคุณจะร้อง “อ๋อ” และนำไปใช้ได้ทันทีครับ

พื้นฐานต้องแน่น: Verb to Have คืออะไรกันแน่?

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีใช้ที่ซับซ้อน เราต้องมาทำความเข้าใจรากเหง้าของมันก่อนครับ ในภาษาอังกฤษ Verb to Have ถือเป็นกริยาที่ “ทรงพลัง” และ “เจ้าเล่ห์” ที่สุดตัวหนึ่ง ทำไมผมถึงเรียกว่าเจ้าเล่ห์? ก็เพราะมันแปลงร่างได้ และทำหน้าที่ได้หลายอย่างมาก แต่หลักๆ แล้วเราแบ่งหน้าที่ของมันออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ เพื่อให้จำง่ายครับ:

  • 1. กริยาแท้ (Main Verb): ในกรณีนี้ มันจะแปลว่า “มี” (Possess), “กิน” (Eat), หรือ “ดื่ม” (Drink)
  • 2. กริยาช่วย (Auxiliary Verb): กรณีนี้มันจะไม่มีความหมายในตัวมันเอง แต่จะเข้าไปช่วยสร้าง Tense ต่างๆ (ตระกูล Perfect Tense) เพื่อบอกช่วงเวลาที่กระทำ

ความสับสนส่วนใหญ่ที่ผมพบเจอจากนักเรียนในคลาส เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ คือการแยกไม่ออกว่าเมื่อไหร่ที่มันทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ และเมื่อไหร่ที่มันเป็นแค่ตัวช่วย วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันทีละประเด็นครับ

เจาะลึก Have และ Has ใช้ต่างกันอย่างไร (ฉบับเข้าใจง่ายที่สุด)

กฎเหล็กข้อแรกของการเรียนรู้ว่า Have/has Had ใช้ ยัง ไง คือเรื่องของ “ประธาน” (Subject) ครับ ภาษาอังกฤษมีความละเอียดอ่อนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประธานกับกริยา (Subject-Verb Agreement) มากกว่าภาษาไทย

หลักการเลือกใช้ Have และ Has

ให้จำสูตรนี้ไว้เลยครับ เป็นสูตรอมตะที่ใช้ได้ตลอดชีวิต:

  • Have: ใช้กับประธานพหูพจน์ (Plural) และข้อยกเว้นคือ I และ You
  • Has: ใช้กับประธานเอกพจน์ (Singular) บุรุษที่ 3 (He, She, It, ชื่อคนคนเดียว)
กลุ่มประธาน (Subject)เลือกใช้ (Verb)ตัวอย่างประโยค (Example)
I, You, We, They, The students (หลายคน)HaveI have a new car. (ฉันมีรถคันใหม่)
He, She, It, Peter (คนเดียว), The dog (ตัวเดียว)HasShe has long hair. (เธอมีผมยาว)

เกร็ดความรู้: หลายคนมักสับสนกับคำว่า “Family” หรือ “Team” ว่าต้องใช้ Have หรือ Has คำตอบคือ ส่วนใหญ่ในไวยากรณ์แบบอเมริกันจะมองเป็นเอกพจน์ (ใช้ Has) แต่ถ้าเน้นสมาชิกรรายบุคคลอาจใช้ Have ได้ ซึ่งตรงนี้ต้องดูบริบทครับ แต่สำหรับการเริ่มต้น ยึดตามตารางข้างบนปลอดภัยที่สุดครับ

แล้ว Had ล่ะ? ตัวนี้คืออะไรและใช้อย่างไร

ถ้า Have และ Has คือเรื่องของปัจจุบัน (Present), Had ก็คือเรื่องราวของ “อดีต” (Past) ครับ ความดีงามของ Had ที่ทำให้นักเรียนของผมยิ้มออกเสมอก็คือ “Had ใช้ได้กับประธานทุกตัว” ไม่ว่าประธานจะเป็น I, You, We, They, He, She, หรือ It ถ้าเหตุการณ์นั้นจบไปแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว เราใช้ Had ตัวเดียวจบเลยครับ ไม่ต้องผันให้ปวดหัว

ตัวอย่างการใช้ Had ในประโยคบอกเล่า

  • I had a headache yesterday. (เมื่อวานฉันปวดหัว – ตอนนี้หายแล้ว)
  • They had a big party last night. (พวกเขามีปาร์ตี้ใหญ่เมื่อคืนนี้)

สังเกตไหมครับว่า พอเป็นเรื่องในอดีต เราไม่ต้องกังวลเรื่องประธานเอกพจน์หรือพหูพจน์เลย นี่คือจุดที่ง่ายที่สุดของเรื่องนี้ครับ แต่จุดที่ยากกำลังจะตามมาในหัวข้อถัดไป

ระดับโปร: การใช้ Have/Has/Had เป็น “กริยาช่วย” ใน Perfect Tense

นี่คือด่านปราบเซียนที่ทำให้หลายคนค้นหาว่า Have/has Had ใช้ ยัง ไง มากที่สุด เพราะเมื่อมันทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary Verb) มันจะไม่ได้แปลว่า “มี” อีกต่อไป แต่มันทำหน้าที่บอกว่า “เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นแล้ว” หรือ “ทำเสร็จแล้ว” ครับ

1. Present Perfect Tense (Subject + Have/Has + V.3)

โครงสร้างนี้ใช้บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ส่งผลถึงปัจจุบัน หรือเพิ่งจะจบลงไปหมาดๆ

  • She has finished her homework. (เธอทำการบ้านเสร็จแล้ว – เน้นว่าเสร็จแล้ว ผลคือมีงานส่ง)
  • We have lived here for 10 years. (พวกเราอาศัยอยู่ที่นี่มา 10 ปีแล้ว – และตอนนี้ก็ยังอยู่)

เทคนิคการจำ: ถ้าเห็น Have หรือ Has ตามด้วยกริยาช่อง 3 (V.3) เมื่อไหร่ ให้รู้ทันทีว่ามันคือ Perfect Tense ไม่ใช่แปลว่า “มี” นะครับ

2. Past Perfect Tense (Subject + Had + V.3)

อันนี้จะซับซ้อนขึ้นอีกนิดครับ เราจะใช้ Had + V.3 เมื่อเราพูดถึง “อดีตซ้อนอดีต” คือมีเหตุการณ์สองอย่างเกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์ที่เกิดก่อนและจบลงก่อน เราจะใช้ Past Perfect (Had) ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดทีหลัง เราจะใช้ Past Simple ธรรมดา

  • When I arrived at the station, the train had left. (เมื่อฉันไปถึงสถานี รถไฟได้ออกไปแล้ว)
    วิเคราะห์: รถไฟออกไปก่อน (Had left) แล้วฉันค่อยไปถึง (Arrived)

เทคนิคการจำจากประสบการณ์สอนกว่า 10 ปี

จากการที่ผมได้มีโอกาสร่วมงานกับคุณครูเจ้าของภาษาที่มีวุฒิบัตร TESOL (Teaching English to Speakers of Other Languages) มาอย่างยาวนาน และได้สังเกตการเรียนรู้ของเด็กไทยผ่านแพลตฟอร์ม บทความความรู้ภาษาอังกฤษ ผมพบว่าวิธีที่จะทำให้จำได้แม่นยำที่สุดคือ “การฝึกแต่งประโยคจากชีวิตจริง” ครับ

การท่องจำตารางกริยา 3 ช่องอาจจะช่วยได้บ้าง แต่การนำ Have/has Had ใช้ ยัง ไง มาผูกกับเรื่องใกล้ตัวจะทำให้สมองจดจำได้ดีกว่า เช่น แทนที่จะท่อง I have a pen ให้ลองเปลี่ยนเป็น I have a problem with my boss (ฉันมีปัญหากับเจ้านาย) ซึ่งเป็นประโยคที่ใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไป สมองจะจำได้แม่นยำขึ้นครับ

ข้อควรระวัง! (Common Mistakes)

สิ่งที่ผมเจอบ่อยมากคือการใช้ Have/Has ผสมกับ Do/Does ผิดๆ ครับ เช่น:

  • ❌ She has not a car. (ผิด! ถ้าเป็นกริยาแท้ ต้องเอา verb to do มาช่วยปฏิเสธ)
  • ✅ She does not have a car. (ถูก! และสังเกตว่าเมื่อมี does แล้ว has ต้องกลับร่างเดิมเป็น have)

นี่คือจุดที่คนไทยพลาดบ่อยที่สุด จำไว้เสมอนะครับ หลัง Verb to Do (Do, Does, Did) กริยาที่ตามมาต้องเป็นรูป Infinitive (รูปดั้งเดิมที่ไม่ผัน) เสมอ นั่นคือ “Have” ครับ ไม่มีทางเป็น Has หรือ Had เด็ดขาด

กรณีศึกษาและผลลัพธ์จริง (Case Study)

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ผมขอยกตัวอย่าง “น้องต้นกล้า” (นามสมมติ) นักเรียนวัย 9 ขวบ ที่เคยมีปัญหากับการเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนอย่างมาก คุณแม่เล่าว่าน้องต้นกล้าไม่กล้าพูด เพราะกลัวใช้ Grammar ผิด โดยเฉพาะเรื่อง Tense และการใช้ Have/Has

ปัญหา: น้องมักจะพูดว่า “He have…” หรือ “I has…” สลับกันตลอด และไม่เข้าใจว่าทำไมบางประโยคต้องมี Had

วิธีการแก้ไข: เราเริ่มจากการปรับพื้นฐานผ่านการสนทนา (Interactive Learning) โดยไม่เน้นการท่องกฎไวยากรณ์ แต่ให้ครูผู้สอนที่เป็น Native Speaker ใช้ประโยคที่ถูกต้องใส่น้องบ่อยๆ และให้น้องเลียนแบบ (Mimic) ในสถานการณ์จำลอง เช่น การสั่งอาหาร หรือการเล่าเรื่องวันหยุด

  • สัปดาห์ที่ 1-2: เน้นการใช้ I have, You have, He has ในประโยคบอกเล่าสิ่งของรอบตัว
  • สัปดาห์ที่ 3-4: เริ่มเล่าเรื่องอดีตโดยใช้ Had ผ่านการเล่านิทาน

ผลลัพธ์: ภายใน 3 เดือน น้องต้นกล้าสามารถแยกแยะการใช้คำเหล่านี้ได้โดยอัตโนมัติ (Automaticity) โดยไม่ต้องหยุดคิดแปลไทยเป็นอังกฤษ จากเดิมที่สอบได้คะแนนคาบเส้น ตอนนี้น้องมีความมั่นใจในการพูดคุยกับชาวต่างชาติมากขึ้น และผลการเรียนที่โรงเรียนก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้ยืนยันได้ว่า การเรียนรู้จาก “การใช้งานจริง” กับผู้เชี่ยวชาญ ได้ผลดีกว่าการท่องจำครับ

ตารางสรุปการใช้งานแบบรวบรัด (Cheat Sheet)

Tense / รูปแบบโครงสร้างตัวอย่าง
Present Simple (บอกเล่า)S + have/hasTom has a bike.
Past Simple (อดีต)S + hadWe had fun yesterday.
Present PerfectS + have/has + V.3I have eaten already.
Past PerfectS + had + V.3She had left before I came.

สรุปส่งท้าย

การเข้าใจว่า Have/has Had ใช้ ยัง ไง ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ หัวใจสำคัญคือการฝึกฝนและสังเกตบริบทของประโยค หากคุณกำลังมองหาวิธีพัฒนาภาษาอังกฤษให้ลูกหลาน หรือแม้แต่ตัวคุณเอง การมีโค้ชหรือครูที่มีคุณภาพคอยให้คำแนะนำจะช่วยย่นระยะเวลาการเรียนรู้ได้มหาศาล

หากคุณสนใจที่จะปูพื้นฐานภาษาอังกฤษให้แน่นตั้งแต่เริ่มต้น หรือต้องการแก้ไขจุดอ่อนทางไวยากรณ์ผ่านการเรียนที่สนุกสนาน ลองแวะเข้ามาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แพ็กเกจเรียนภาษาอังกฤษ ของเราดูนะครับ การลงทุนกับการศึกษาคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเสมอครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. Verb to have มีกี่ตัว อะไรบ้าง?

Verb to have หลักๆ มี 3 รูปแบบครับ คือ Have, Has (ใช้ในปัจจุบัน) และ Had (ใช้ในอดีต) โดยการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับประธานของประโยคและช่วงเวลา (Tense) ที่เราพูดถึงครับ

2. ใช้ have got กับ have ต่างกันอย่างไร?

ทั้งสองคำแปลว่า “มี” เหมือนกันครับ แต่ “have got” จะนิยมใช้ในภาษาพูดแบบไม่เป็นทางการ (Informal) โดยเฉพาะในฝั่งอังกฤษ (British English) ส่วน “have” จะใช้ได้ทั่วไปและเป็นทางการมากกว่าครับ

3. ทำไมบางครั้งเจอ having ในประโยค?

Having มักใช้ใน Continuous Tense เมื่อ have แปลว่า “กิน” “ดื่ม” หรือ “กำลังประสบกับ…” (เช่น I am having lunch, I am having a good time) แต่จำไว้ว่า ถ้า have แปลว่า “มี” (ครอบครอง) เราจะไม่ใช้ในรูป having เด็ดขาดครับ เช่น เราจะไม่พูดว่า I am having a car ครับ

4. เด็กเริ่มเรียนภาษาอังกฤษควรเริ่มจำ Grammar ก่อนหรือท่องศัพท์ก่อน?

สำหรับเด็กเล็กหรือผู้เริ่มต้น แนะนำให้เรียนรู้แบบธรรมชาติ (Natural Approach) คือฟังและพูดประโยคง่ายๆ ก่อนครับ Grammar จะค่อยๆ ซึมซับเข้ามาเองเมื่อเจอรูปประโยคซ้ำๆ การท่องกฎ Grammar หนักๆ ตั้งแต่แรกอาจทำให้เกิดความกลัวและต่อต้านภาษาอังกฤษได้ครับ

อ้างอิงข้อมูลทางวิชาการ:
1. Cambridge Dictionary – Have, Has and Had Grammar Guide
2. British Council – Verb ‘to have’ and usage

Related Post

รับฟรี! คลาสเรียนภาษาอังกฤษมูลค่า 1,500 บาท

This field is required.
ฟิลด์นี้จำเป็นต้องระบุ.
Về tôi

51Talk แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เรียนผ่านแอปออนไลน์กับครูชาวต่างชาติแบบตัวต่อตัว

scroll-top