สรุปครบ! Adjective คืออะไร ใช้ อย่างไร พร้อมตัวอย่างจริง

สรุปครบ! Adjective คืออะไร ใช้ อย่างไร พร้อมตัวอย่างจริง
  • ธันวาคม 23, 2025

เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมเวลาเราพูดภาษาอังกฤษ ประโยคของเราถึงฟังดู “แข็งทื่อ” หรือไม่สละสลวยเหมือนเจ้าของภาษา? หรือบางครั้งเราอยากจะชมใครสักคนว่าสวย แต่ก็นึกออกแค่คำว่า “Beautiful” คำเดียว ทั้งที่ในใจอยากจะบรรยายให้ลึกซึ้งกว่านั้น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าเราเข้าใจหัวใจสำคัญของไวยากรณ์ตัวหนึ่ง นั่นคือ Adjective ครับ

ในฐานะที่ผมคลุกคลีอยู่ในแวดวงการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กและผู้เริ่มต้นมากว่า 10 ปี ผมกล้ายืนยันเลยว่า “คำคุณศัพท์” หรือ Adjective เปรียบเสมือน “เครื่องสำอาง” ของภาษาครับ ถ้าคำนาม (Noun) คือใบหน้า Adjective ก็คือสีสันที่มาแต่งแต้มให้ใบหน้านั้นดูมีมิติ สวยงาม และชัดเจนยิ่งขึ้น วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปเจาะลึกกันแบบหมดเปลือก สรุปให้เห็นภาพชัดเจนว่า Adjective คืออะไร ใช้ อย่างไร และมีเทคนิคอะไรบ้างที่จะทำให้คุณใช้มันได้อย่างมืออาชีพ รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะกล้าแต่งประโยคมากขึ้นแน่นอนครับ

Adjective คืออะไร? ปูพื้นฐานให้แน่นก่อนเริ่มใช้

ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุด Adjective (คำคุณศัพท์) คือ คำที่ทำหน้าที่ “ขยาย” คำนาม (Noun) หรือสรรพนาม (Pronoun) ครับ หน้าที่หลักของมันคือการบอกลักษณะ บอกคุณสมบัติ หรือให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ เพื่อให้ผู้ฟังเห็นภาพชัดเจนขึ้น

ลองจินตนาการดูนะครับ ถ้าผมพูดว่า “ฉันเห็นแมว” (I saw a cat) คุณอาจจะนึกภาพแมวทั่วไป แต่ถ้าผมเติม Adjective เข้าไปว่า “ฉันเห็นแมวสีดำตัวอ้วนขนฟู” (I saw a fluffy fat black cat) ภาพในหัวของคุณจะเปลี่ยนไปทันที เห็นไหมครับว่าคำคุณศัพท์ทรงพลังแค่ไหนในการสื่อสาร

หน้าที่หลักของ Adjective ที่ต้องรู้

  • บอกลักษณะ: เช่น Good (ดี), Bad (แย่), Beautiful (สวย), Tall (สูง)
  • บอกสี: เช่น Red, Blue, Green, Dark
  • บอกขนาด: เช่น Big, Small, Long, Short
  • บอกอารมณ์ความรู้สึก: เช่น Happy, Sad, Angry
  • บอกจำนวน: เช่น One, Two, Many, Few

ตำแหน่งของ Adjective วางตรงไหนถึงจะถูก?

นี่คือคำถามยอดฮิตที่คนไทยสับสนมากที่สุดครับ เพราะในภาษาไทยเรามักวางคำขยายไว้ “หลัง” คำนาม (เช่น รถแดง) แต่ในภาษาอังกฤษ กฎหลักๆ ของ Adjective คืออะไร ใช้ อย่างไร นั้น จะมีการวางตำแหน่งที่ต่างออกไป โดยหลักๆ มีอยู่ 2 ตำแหน่งสำคัญดังนี้ครับ

1. วางไว้ “หน้า” คำนาม (Before Noun)

นี่คือกฎเหล็กที่ต้องจำให้แม่นครับ ภาษาอังกฤษจะเอาคำขยายมาไว้ข้างหน้าคำนามที่ถูกขยายเสมอ

  • Correct: A red car (รถสีแดง)
  • Incorrect: A car red (ผิดไวยากรณ์ทันที)

ตัวอย่างเพิ่มเติม:

  • She is a smart student. (เธอเป็นนักเรียนที่ฉลาด)
  • It is a dangerous animal. (มันเป็นสัตว์ที่อันตราย)

2. วางไว้ “หลัง” Linking Verb (After Linking Verb)

Linking Verb คือกริยาที่ใช้เชื่อมประธานกับคำคุณศัพท์ เช่น Verb to be (is, am, are, was, were), seem, look, feel, taste, smell, sound, become เป็นต้น ในกรณีนี้ Adjective จะทำหน้าที่ขยายประธานของประโยคครับ

Subject (ประธาน)Linking VerbAdjective (คำคุณศัพท์)ความหมาย
The foodtastesdeliciousอาหารรสชาติอร่อย
Youlooktiredคุณดูเหนื่อยนะ
Heishandsomeเขาหล่อ

การเข้าใจเรื่อง Linking Verb นี้จะช่วยให้คุณพูดประโยคแสดงความรู้สึกได้เป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่เน้นย้ำในคลาสเรียนของ 51Talk Thailand เสมอ เพราะเราอยากให้ผู้เรียนสื่อสารความรู้สึกได้จริง

กับดักที่คนไทยพลาดบ่อย: Adjective เติม -ed และ -ing

เคยได้ยินคนพูดว่า “I am boring” ไหมครับ? เขาอาจจะตั้งใจบอกว่า “ฉันเบื่อ” แต่จริงๆ แล้วประโยคนั้นแปลว่า “ฉันเป็นคนน่าเบื่อ”!

นี่คือจุดที่ต้องระวังให้ดีครับ คำคุณศัพท์ที่เกิดจากคำกริยา (Participle Adjective) จะมี 2 แบบ:

  • ลงท้ายด้วย -ed (รู้สึก…): ใช้กับ “คน” เพื่อบอกความรู้สึก
    Example: I am bored. (ฉันรู้สึกเบื่อ)
  • ลงท้ายด้วย -ing (น่า…): ใช้บอกลักษณะของ “สิ่งของ” หรือ “คน”
    Example: The movie is boring. (หนังเรื่องนี้น่าเบื่อ)

เทคนิคการจำ: -ed = รู้สึก (Feel), -ing = น่า (Characteristic)

ถ้ามี Adjective หลายตัว ต้องเรียงอย่างไร? (Royal Order of Adjectives)

เมื่อเราเก่งขึ้น เราอาจจะอยากขยายความคำนามด้วยคำคุณศัพท์หลายๆ คำพร้อมกัน เช่น “กระเป๋าหนังสีดำใบใหญ่ของอิตาลี” ภาษาอังกฤษไม่ได้เรียงตามใจชอบนะครับ แต่มีกฎสากลที่เรียกว่า Royal Order of Adjectives ดังนี้:

  1. Opinion (ความเห็น): beautiful, ugly, good
  2. Size (ขนาด): big, small, tall
  3. Age (อายุ/ความเก่าใหม่): old, new, young
  4. Shape (รูปร่าง): round, square
  5. Color (สี): red, blue, black
  6. Origin (ที่มา/สัญชาติ): Thai, Italian, Chinese
  7. Material (วัสดุ): plastic, wooden, leather
  8. Purpose (วัตถุประสงค์): sleeping (bag), running (shoes)

ตัวอย่าง: A beautiful big new black Italian leather bag.
(ปกติเราจะใช้แค่ 2-3 คำก็พอครับ เพื่อไม่ให้ประโยคเยิ่นเย้อเกินไป)

กรณีศึกษาและผลลัพธ์จริง (Case Study)

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ผมขอยกตัวอย่าง “น้องมินนี่” (นามสมมติ) นักเรียนวัย 8 ขวบ ที่เคยมีปัญหาเรื่องการเขียนบรรยาย น้องมักจะเขียนประโยคสั้นๆ ห้วนๆ เช่น “I have a doll.” ทำให้คะแนนพาร์ทการเขียนไม่ค่อยดี

ปัญหา: น้องไม่รู้วิธีขยายความและสับสนตำแหน่งของ Adjective มักเขียนว่า “Doll beautiful” ตามแบบภาษาไทย

วิธีการแก้ไข: ที่ 51Talk Thailand คุณครูผู้เชี่ยวชาญ (ซึ่งผ่านการอบรมและได้รับใบรับรอง TESOL) ได้ใช้เทคนิค “Sandwich Method” สอนให้น้องมินนี่ โดยเปรียบเทียบ Noun เป็นเนื้อ และ Adjective เป็นขนมปังที่ต้องวางไว้ข้างหน้า หรือใช้เกมจับคู่ภาพกับคำศัพท์เพื่อฝึกความคุ้นเคย

ผลลัพธ์: ภายใน 2 เดือน น้องมินนี่สามารถแต่งประโยคได้ซับซ้อนขึ้น จาก “I have a doll.” กลายเป็น “I have a cute small pink doll.” คะแนนการเขียนที่โรงเรียนเพิ่มขึ้น 40% และที่สำคัญคือน้องมีความมั่นใจในการเล่าเรื่องมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

กราฟแสดงพัฒนาการการใช้ Adjective ของนักเรียนหลังเรียนเข้าใจ Adjective คืออะไร ใช้ อย่างไร

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert Advice)

จากประสบการณ์กว่า 10 ปีของผม การเรียนรู้เรื่อง Adjective คืออะไร ใช้ อย่างไร ให้ได้ผลดีที่สุด ไม่ใช่การท่องจำกฎ Royal Order ทั้งหมดในวันเดียวครับ แต่คือการ “เห็นและใช้” บ่อยๆ

ผมแนะนำให้ผู้เรียน:

  • ฝึกสังเกต: เวลาดูหนังหรืออ่านการ์ตูนภาษาอังกฤษ ให้สังเกตคำที่อยู่หน้า Noun
  • เรียนกับเจ้าของภาษา: การได้ยินสำเนียงและการใช้คำที่เป็นธรรมชาติ (Collocation) จากครูต่างชาติที่มีคุณภาพ จะช่วยให้เราซึมซับการใช้งานที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติ ซึ่งที่ 51Talk Thailand เราคัดเลือกครูที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้มั่นใจว่าผู้เรียนจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
  • กล้าที่จะผิด: อย่ากลัวที่จะเรียงคำผิดในช่วงแรก การพูดผิดคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ครับ

สรุป

Adjective คือกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนภาษาอังกฤษระดับพื้นฐานของคุณให้ดูมีความเป็นมืออาชีพและน่าสนใจมากขึ้น เพียงแค่จำหลักการง่ายๆ ว่า “วางหน้า Noun, ตามหลัง Linking Verb, และระวังเรื่อง -ed/-ing” เท่านี้คุณก็พร้อมที่จะสื่อสารได้อย่างมั่นใจแล้วครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. Adjective กับ Adverb ต่างกันอย่างไร?

Adjective ใช้ขยายคำนาม (Noun) บอกลักษณะของคน สัตว์ สิ่งของ แต่ Adverb (กริยาวิเศษณ์) ใช้ขยายคำกริยา (Verb) บอกลักษณะการกระทำ เช่น He is a slow walker (Adjective ขยายคน) แต่ He walks slowly (Adverb ขยายการเดิน) ครับ

2. จำเป็นต้องท่องกฎการเรียง Adjective (Royal Order) ไหม?

ในช่วงเริ่มต้นอาจจะไม่จำเป็นต้องท่องเป๊ะๆ ครับ ให้เน้นความคุ้นเคยก่อน แต่ถ้าต้องการเขียนเชิงวิชาการหรือสอบ การรู้ลำดับ (ขนาด -> อายุ -> สี) จะช่วยให้ประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์สากลครับ

3. มีคำศัพท์ Adjective ไหนที่ใช้บ่อยและควรรู้บ้าง?

คำกลุ่มที่ใช้บ่อยคือกลุ่มบอกความรู้สึก (Happy, Tired, Excited), ขนาด (Big, Small, Huge), และคุณภาพ (Good, Bad, Amazing, Terrible) แนะนำให้เริ่มจำจากคำตรงข้ามกัน (Antonyms) จะช่วยให้จำได้เร็วขึ้นครับ

4. จะรู้ได้อย่างไรว่าคำไหนเป็น Adjective?

สังเกตจากตำแหน่ง (หน้า Noun หรือหลัง Verb to be) และสังเกตคำลงท้าย (Suffix) ครับ คำที่ลงท้ายด้วย -ful, -al, -ous, -y, -able, -ive มักจะเป็น Adjective ครับ เช่น Beautiful, Famous, Active ครับ

อ้างอิงข้อมูลทางวิชาการ:
1. Cambridge Dictionary. “Adjectives: Order.” Cambridge University Press. Link
2. British Council. “Adjectives ending in -ed and -ing.” LearnEnglish. Link

Related Post

รับฟรี! คลาสเรียนภาษาอังกฤษมูลค่า 1,500 บาท

This field is required.
ฟิลด์นี้จำเป็นต้องระบุ.
Về tôi

51Talk แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เรียนผ่านแอปออนไลน์กับครูชาวต่างชาติแบบตัวต่อตัว

scroll-top