โครงสร้าง Present Perfect: วิธีใช้และตัวอย่างง่าย ๆ

โครงสร้าง Present Perfect: วิธีใช้และตัวอย่างง่าย ๆ
  • ธันวาคม 2, 2025

ถ้าคุณเคยสับสนเวลาเจอประโยคอย่าง I have finished. หรือ She has lived here for ten years. แล้วไม่แน่ใจว่าจะจัดอยู่ในกาลเวลาไหน บทความนี้จะช่วยคลี่คลายทุกอย่างเกี่ยวกับ โครงสร้าง present perfect แบบเป็นขั้นตอน อ่านจบแล้วคุณจะเข้าใจว่ากาลนี้คืออะไร ใช้เมื่อไหร่ แตกต่างจากกาลอดีตธรรมดาอย่างไร และจะสร้างประโยคถูกต้องได้อย่างไร ทั้งในประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถาม พร้อมตัวอย่างที่ใกล้ชีวิตประจำวัน เทคนิคจำง่าย ๆ ตารางเปรียบเทียบ และแบบฝึกฝนสั้น ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณกล้าใช้ present perfect ในการพูดและเขียนจริง ไม่ใช่แค่จำสูตรอย่างเดียว

ภาพรวมโครงสร้าง present perfect ที่ควรรู้ก่อนเริ่ม

ก่อนจะลงลึกในรายละเอียด มาดูภาพรวมของ present perfect กันก่อนว่าแท้จริงแล้วกาลนี้ใช้เพื่อเชื่อม “อดีต” กับ “ปัจจุบัน” คือพูดถึงสิ่งที่เริ่มในอดีต แต่ผลหรือความสำคัญยังเกี่ยวข้องกับตอนนี้ เวลาค้นหาคำว่า present perfect คืออะไร หรือ present perfect ใช้ยังไง ส่วนใหญ่จะเจอสูตรคล้าย ๆ กัน คือ

  • have/has + past participle (V3) เช่น I have eaten., She has seen that movie.
  • มักใช้คู่กับคำบอกเวลาอย่าง already, yet, just, ever, never, for, since
  • เน้น “ผลลัพธ์ในปัจจุบัน” หรือ “ประสบการณ์จนถึงตอนนี้” มากกว่าช่วงเวลาอดีตที่แน่นอน

จุดสำคัญคือ โครงสร้าง present perfect ไม่ได้เน้น “เมื่อไหร่” แต่เน้น “เกิดแล้ว และเกี่ยวกับตอนนี้อย่างไร” ถ้าเข้าใจภาพนี้ชัด การเรียนส่วนต่อไปจะง่ายขึ้นมาก

โครงสร้าง present perfect แบบละเอียดและเข้าใจง่าย

1. ประโยคบอกเล่า (Affirmative)

โครงสร้างพื้นฐานของประโยคบอกเล่าใน present perfect คือ

ประธาน + have/has + V3 + ส่วนขยาย

  • I have finished my homework. — ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว
  • She has visited Japan three times. — เธอเคยไปญี่ปุ่นมาแล้วสามครั้ง
  • We have learned present perfect today. — วันนี้พวกเราได้เรียน present perfect แล้ว

หลักจำง่าย ๆ คือ ถ้าประธานเป็น I, you, we, they ใช้ have ถ้าเป็น he, she, it ให้ใช้ has จากนั้นตามด้วยกริยา V3 เสมอ

2. ประโยคปฏิเสธ (Negative)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธคือ

ประธาน + have/has + not + V3 + ส่วนขยาย

  • I have not (haven’t) finished my homework. — ฉันยังทำการบ้านไม่เสร็จ
  • He has not (hasn’t) called me yet. — เขายังไม่ได้โทรหาฉันเลย
  • They have not started the project. — พวกเขายังไม่เริ่มโปรเจกต์

ในการพูดสนทนาจริง มักใช้รูปย่ออย่าง haven’t / hasn’t จะฟังเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่เวลาเขียนสอบอาจเลือกใช้รูปเต็มตามข้อกำหนดของข้อสอบ

3. ประโยคคำถาม (Question)

รูปแบบคำถามของโครงสร้าง present perfect คือ

Have/Has + ประธาน + V3 + ส่วนขยาย ?

  • Have you eaten yet? — คุณกินข้าวหรือยัง
  • Has she finished the report? — เธอเขียนรายงานเสร็จหรือยัง
  • Have they visited Chiang Mai before? — พวกเขาเคยไปเชียงใหม่มาก่อนหรือไม่

ถ้าเป็นคำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำถาม Wh- เช่น where, what, how long ให้เอาคำถามมาวางข้างหน้าสุด แล้วตามด้วยโครงสร้างเหมือนเดิม

  • How long have you studied English? — คุณเรียนภาษาอังกฤษมานานแค่ไหนแล้ว
  • What have you done today? — วันนี้คุณทำอะไรมาบ้าง

4. คำบอกเวลาที่ใช้กับ present perfect บ่อยที่สุด

การใช้คำบอกเวลาให้ถูกต้องช่วยให้โครงสร้าง present perfect ชัดเจนขึ้นมาก คำที่เจอบ่อย ได้แก่

  • for + ระยะเวลา: for two years, for a long time
  • since + จุดเวลา: since 2020, since last week
  • already — ใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเร็วกว่าที่คิด
  • yet — ใช้กับประโยคปฏิเสธและคำถาม
  • just — ใช้เมื่อเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
  • ever / never — ใช้พูดถึงประสบการณ์
โครงสร้าง present perfect แสดงเส้นเวลาอดีตถึงปัจจุบัน
ภาพสรุปโครงสร้าง present perfect แบบเส้นเวลา ช่วยให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน

เปรียบเทียบ present perfect กับ past simple แบบเห็นภาพ

อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตคือ “เมื่อไหร่ควรใช้ present perfect และเมื่อไหร่ควรใช้ past simple” เพราะทั้งสองกาลใช้พูดถึงอดีตเหมือนกัน ส่วนนี้จะช่วยให้คุณแยกแยะ present perfect vs past simple ได้ชัดขึ้น

สถานการณ์ตัวอย่าง Present Perfectตัวอย่าง Past Simpleคำอธิบาย
พูดถึง “ประสบการณ์”I have been to Japan.I went to Japan in 2019.Present perfect เน้น “เคยไปแล้ว” แต่ไม่ได้บอกปี Past simple ระบุเวลาชัดเจน
ผลที่เกี่ยวกับปัจจุบันShe has lost her keys.She lost her keys yesterday.Present perfect เน้นผลตอนนี้ “ยังหาไม่เจอ” ส่วน Past simple เน้นเหตุการณ์เมื่อวาน
การกระทำที่เพิ่งจบWe have just finished dinner.We finished dinner at 7 p.m.Present perfect บอกว่าเพิ่งกินเสร็จ ส่วน Past simple เพิ่มข้อมูลเวลาชัดเจน
เหตุการณ์ในอดีตจบไปแล้วไม่ค่อยใช้They moved here last year.ถ้าเหตุการณ์จบไปแล้วและไม่ได้เน้นผลในปัจจุบัน Past simple จะเหมาะกว่า

สถานการณ์จริงที่ต้องใช้โครงสร้าง present perfect

1. ใช้พูดถึงประสบการณ์จนถึงตอนนี้

เวลาจะเล่าประสบการณ์ชีวิต เช่น เคยไปที่ไหน ทำอะไรมาบ้าง มักใช้โครงสร้าง present perfect เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งหรืออย่างน้อยหนึ่งครั้ง และยังมีความหมายต่อปัจจุบัน

  • I have travelled to Korea three times. — ฉันเคยไปเกาหลีมาแล้วสามครั้ง
  • She has never tried sushi. — เธอไม่เคยลองซูชิเลย
  • Have you ever joined an English camp? — คุณเคยเข้าค่ายภาษาอังกฤษไหม

2. ใช้เน้นผลลัพธ์ในปัจจุบัน

ถ้าอยากเน้นว่า ตอนนี้เกิดผลบางอย่างขึ้นแล้ว เพราะเหตุการณ์ในอดีต โครงสร้าง present perfect จะเหมาะมาก เช่น

  • I have finished the report, so you can read it now. — ฉันเขียนรายงานเสร็จแล้ว ตอนนี้คุณอ่านได้เลย
  • They have moved to a new office. — ตอนนี้พวกเขาย้ายไปออฟฟิศใหม่แล้ว
  • The movie has started. — หนังเริ่มแล้ว (ตอนนี้กำลังฉายอยู่)

3. ใช้กับเหตุการณ์ที่เริ่มในอดีตและต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

ถ้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเริ่มขึ้นในอดีต และยังดำเนินอยู่จนถึงตอนนี้ มักใช้โครงสร้าง present perfect ร่วมกับ for / since

  • I have studied English for three years. — ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 3 ปีแล้ว
  • She has worked here since 2020. — เธอทำงานที่นี่ตั้งแต่ปี 2020
  • We have known each other since high school. — เรารู้จักกันมาตั้งแต่มัธยม

4. ใช้บอกเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

เมื่อต้องการสื่อว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน มักใช้ present perfect ร่วมกับคำว่า just

  • He has just left. — เขาเพิ่งออกไปเมื่อกี้
  • I have just seen your message. — ฉันเพิ่งเห็นข้อความของคุณ

เทคนิคจำโครงสร้าง present perfect สำหรับผู้เริ่มต้น

การจำเพียงสูตรมักไม่พอสำหรับการนำไปใช้จริง โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นที่ยังไม่คุ้นกับ tense ภาษาอังกฤษ ส่วนนี้จะรวบรวมเทคนิคที่ใช้ได้จริงทั้งในห้องเรียนและการฝึกด้วยตัวเอง

1. ใช้สูตร “H + V3 + ผลลัพธ์ตอนนี้”

ลองจำภาพง่าย ๆ ว่า present perfect มีส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ

  • H = have/has
  • V3 = กริยาช่องที่ 3
  • ผลลัพธ์ตอนนี้ = สิ่งที่เปลี่ยนแปลงแล้วในปัจจุบัน

ตัวอย่างเช่น

  • I have eaten. — ฉันกินแล้ว (ตอนนี้ไม่หิว)
  • She has broken her phone. — เธอทำโทรศัพท์พัง (ตอนนี้ใช้ไม่ได้)

2. ฝึกกับคำกริยา 20 คำแรกให้คล่อง

งานวิจัยด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษระบุว่า การรู้คำศัพท์พื้นฐานกลุ่มแรก ๆ และรูปผันของมันช่วยให้เข้าใจภาษาในชีวิตประจำวันได้สูงมาก หากคุณเลือกกริยาไม่กี่คำแล้วฝึกทำ present perfect ซ้ำ ๆ จะช่วยให้โครงสร้างติดหัวได้เร็วขึ้น

  • go – went – gone
  • do – did – done
  • eat – ate – eaten
  • see – saw – seen
  • write – wrote – written

ลองแต่งประโยคง่าย ๆ เช่น

  • I have gone to the gym.
  • She has done her homework.
  • We have seen that movie.

3. ใช้แฟลชการ์ด (Flashcards) และตารางสรุป

คุณสามารถทำแฟลชการ์ดสำหรับกริยาแต่ละคำ โดยด้านหนึ่งเขียน V1 และอีกด้านหนึ่งเขียน V2/V3 แล้วลองท่องผสมกับการแต่งประโยค present perfect จากคำศัพท์แต่ละใบ การใช้รูปแบบนี้สอดคล้องกับงานของผู้เชี่ยวชาญด้านคำศัพท์ที่ย้ำว่าการเรียนจากรายการคำและการทบทวนซ้ำ ๆ ช่วยให้จำได้ยั่งยืน

กรณีศึกษาและผลลัพธ์จริงจากการฝึกใช้ present perfect

กรณีศึกษาที่ 1: จาก “ไม่กล้าแต่งประโยค” สู่การเล่าเรื่องชีวิตด้วย present perfect

นัทเป็นผู้เรียนวัยทำงานที่เคยบอกว่าตัวเอง “จำสูตร tense ไม่ได้เลย” เวลาต้องพูดภาษาอังกฤษมักใช้แต่ประโยคสั้น ๆ อย่าง I go, I work โดยไม่กล้าเล่าเรื่องประสบการณ์ในอดีต ครูผู้สอนที่มีใบประกาศนียบัตรด้านการสอนภาษาอังกฤษต่างประเทศ (TESOL) เริ่มจากการให้เขาเล่าเรื่องชีวิตเป็นภาษาไทย เช่น เคยไปไหนมาบ้าง เคยทำอะไรสำเร็จ แล้วค่อยช่วยแปลงเป็น present perfect ทีละประโยค

  • สัปดาห์ที่ 1–2: ฝึกใช้โครงสร้าง I have… กับกริยา 10 คำหลัก
  • สัปดาห์ที่ 3–4: ฝึกเล่า “ประสบการณ์แรกในชีวิต” ด้วย present perfect เช่น I have flown by plane.
  • สัปดาห์ที่ 5–6: ฝึกตอบคำถาม Have you ever…? แบบโต้ตอบ

หลังจากเรียนต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ นัทสามารถใช้ประโยคอย่าง I have changed my job three times. หรือ I have visited many countries in Asia. ได้อย่างมั่นใจ และเริ่มรู้สึกว่าการใช้ tense นี้ไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไป

กรณีศึกษาที่ 2: นักเรียนระดับเริ่มต้นที่ต้องเตรียมสอบสัมภาษณ์

เบลเป็นผู้เรียนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์งานออนไลน์ จุดอ่อนคือไม่รู้จะเล่า “ประสบการณ์ทำงาน” เป็นภาษาอังกฤษอย่างไร ครูที่ถือใบ TESOL ได้ออกแบบบทเรียนเน้นโครงสร้าง present perfect โดยเฉพาะ ใช้คำถามสัมภาษณ์จริง เช่น

  • How long have you worked in this field?
  • What projects have you completed recently?

จากเดิมที่ตอบไม่ได้เลย เบลเริ่มตอบได้เป็นประโยคยาว ๆ ภายในหนึ่งเดือน เช่น I have worked in customer service for five years., I have handled many difficult clients. ทำให้ความมั่นใจในการสัมภาษณ์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ฝึกโครงสร้าง present perfect ออนไลน์กับครูที่มีคุณวุฒิ

นอกจากการฝึกด้วยตัวเอง การเรียนกับครูที่มีประสบการณ์และมีใบประกาศนียบัตรสากล เช่น TESOL (Teaching English to Speakers of Other Languages) จะช่วยให้คุณรับคำแนะนำที่ถูกต้อง แก้จุดผิดซ้ำ ๆ และได้ฝึกใช้ present perfect ในสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงของจริง

มาตรฐานทั่วไปที่ใช้กันคือหลักสูตร TESOL อย่างน้อย 120 ชั่วโมง ซึ่งเน้นทั้งทฤษฎีการสอนและการออกแบบกิจกรรมให้ผู้เรียนสามารถนำภาษาไปใช้ได้จริง การเลือกครูที่ผ่านการอบรมลักษณะนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าบทเรียนมีโครงสร้างและได้รับการออกแบบมาอย่างเป็นระบบ

หากมองหาแพลตฟอร์มเรียนสดแบบตัวต่อตัวที่มีฐานอยู่ในไทย 51Talk Thailand เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่น เนื่องจากครูต่างชาติที่สอนผ่านระบบได้รับการคัดเลือกและอบรมอย่างเข้มงวด หลายคนมีประกาศนียบัตรด้านการสอนภาษาอังกฤษระดับสากล บทเรียนถูกออกแบบให้ต่อเนื่องตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูง และเน้นการใช้ภาษาในสถานการณ์จริง ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสฝึกใช้โครงสร้าง present perfect ไปพร้อมกับ tense อื่น ๆ ในบทสนทนา

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเมื่อใช้โครงสร้าง present perfect

  • ใช้เวลาแบบเจาะจงกับ present perfect
    เช่น ✗ I have seen that movie yesterday.
    ควรเปลี่ยนเป็น Past simple: ✓ I saw that movie yesterday.
  • สลับใช้ have/has ผิดกับประธาน
    เช่น ✗ She have finished. ควรเป็น ✓ She has finished.
  • ใช้ V2 แทน V3
    เช่น ✗ I have went. ควรเป็น ✓ I have gone.
  • ลืมใช้ ever/never เมื่อพูดถึงประสบการณ์
    เช่น ✗ I have been to Korea? (ตั้งใจถามว่าเคยไปไหม)
    ควรเป็น ✓ Have you ever been to Korea?

ทางแก้คือ ลองทำ “สมุดรวมข้อผิดพลาดส่วนตัว” จดประโยคที่เคยเขียนผิด แล้วเขียนเวอร์ชันที่ถูกไว้คู่กัน ทบทวนทุกสัปดาห์ คุณจะเห็นพัฒนาการชัดเจน โดยเฉพาะเรื่อง tense ที่มักสับสน

ลิงก์ภายในที่แนะนำสำหรับการต่อยอดการเรียน

ถ้าคุณต้องการวางพื้นฐานภาษาอังกฤษให้แน่นก่อนต่อยอดเรื่องโครงสร้าง present perfect และ tense อื่น ๆ สามารถอ่านบทความต่อไปนี้บนเว็บไซต์เดียวกันได้เลย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโครงสร้าง Present Perfect

1) จะพูดว่า “ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 3 ปีแล้ว” เป็น present perfect อย่างไร

ประโยคที่ถูกคือ I have studied English for three years. ใช้โครงสร้าง have + V3 และใช้ for + ระยะเวลา เพื่อบอกว่าการเรียนเริ่มในอดีตและยังต่อเนื่องมาถึงตอนนี้

2) ต่างกันอย่างไรระหว่าง “I have gone to work.” กับ “I have been to work.”

I have gone to work. หมายถึง “ไปแล้วและยังไม่กลับมา” เน้นว่าตอนนี้คน ๆ นั้นไม่อยู่ที่นี่ ส่วน I have been to work. มักใช้สื่อว่า “เคยไปที่ทำงานมาแล้ว” หรือ “ไปมาแล้วและกลับมาแล้ว” จึงใช้ต่างบริบทกัน

3) ใช้ present perfect กับคำว่า yesterday ได้ไหม

โดยทั่วไปไม่ใช้ present perfect คู่กับคำที่ระบุเวลาอดีตชัดเจน เช่น yesterday, last year, in 2020 ถ้ามีคำเหล่านี้ควรใช้ Past simple เช่น I went there yesterday. มากกว่า

4) ถ้าจะบอกว่า “ฉันเพิ่งกินข้าวเสร็จ” ควรใช้ tense ไหน

สามารถใช้ present perfect ร่วมกับ just เป็น I have just had lunch. หมายถึงเพิ่งกินเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ และผลคือ “ตอนนี้อิ่มอยู่”

5) ควรเริ่มฝึกโครงสร้าง present perfect ยังไงดีสำหรับผู้เริ่มต้น

เริ่มจากจำโครงสร้างพื้นฐานให้แม่น (have/has + V3) เลือกกริยาไม่กี่คำที่ใช้บ่อย เช่น go, do, eat, see แล้วฝึกแต่งประโยคเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง จากนั้นลองตอบคำถาม Have you ever…? เกี่ยวกับประสบการณ์จริงของคุณ และถ้ามีโอกาส ควรฝึกพูดกับครูออนไลน์ที่ช่วยแก้ไขให้แบบตัวต่อตัว

ข้อมูลจริงและความน่าเชื่อถือของแนวทางการเรียน

รายงานดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษ (EF English Proficiency Index) ปีล่าสุดระบุว่า คะแนนเฉลี่ยภาษาอังกฤษของผู้ใหญ่ในไทยอยู่ในระดับ “ต่ำมาก” และจัดอันดับอยู่ราวท้ายตารางเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าการวางพื้นฐานไวยากรณ์ เช่น โครงสร้าง present perfect ยังเป็นโจทย์สำคัญสำหรับผู้เรียนจำนวนมาก

ด้านงานวิจัยด้านคำศัพท์และการเรียนภาษา พบว่าการจัดโครงสร้างบทเรียนให้ผู้เรียนได้ฝึกทั้งคำศัพท์พื้นฐาน การอ่าน การเขียน และการใช้รูปประโยคในสถานการณ์จริง ช่วยเพิ่มโอกาสในการจดจำได้ดีขึ้นกว่าการท่องจำเพียงอย่างเดียว การผสมผสานแบบฝึกหัด การทบทวน และการพูดกับครูหรือคู่สนทนาจริงจึงเป็นแนวทางที่มีหลักฐานรองรับ

ข้อควรรู้เพิ่มเติมและคำแนะนำสุดท้าย

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางการใช้โครงสร้าง present perfect สำหรับผู้เรียนทั่วไป เนื้อหาไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อทดแทนตำราทางการหรือข้อสอบมาตรฐานใด ๆ การนำไปใช้ควรพิจารณาร่วมกับระดับภาษาและเป้าหมายของแต่ละคน หากต้องใช้ภาษาอังกฤษในบริบทที่เป็นทางการมาก เช่น การทำรายงานวิชาการ หรือการสื่อสารในองค์กรขนาดใหญ่ ควรปรึกษาครูผู้สอนหรือผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม

การฝึกอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการรับคำแนะนำจากครูที่มีประสบการณ์และคุณวุฒิด้านการสอนภาษาอังกฤษ เช่น TESOL จะช่วยให้คุณใช้ present perfect และ tense อื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจและถูกต้องมากขึ้นในระยะยาว

แหล่งอ้างอิงและเอกสารเพิ่มเติม

  1. EF English Proficiency Index 2023. รายงานดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก. เข้าถึงได้จาก https://www.ef.com/epi/
  2. Nation, P. (2022). Learning Vocabulary in Another Language. Cambridge University Press.
  3. Cambridge Dictionary. “Present perfect simple (I have worked).” เข้าถึงได้จาก Cambridge Grammar – Present perfect simple
  4. British Council. “Present perfect.” แหล่งอธิบายการใช้ present perfect พร้อมตัวอย่าง. British Council – Present perfect
  5. TESOL International Association. มาตรฐานและแนวทางด้านการสอนภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่. https://www.tesol.org/

Related Post

รับฟรี! คลาสเรียนภาษาอังกฤษมูลค่า 1,500 บาท

This field is required.
ฟิลด์นี้จำเป็นต้องระบุ.
Về tôi

51Talk แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เรียนผ่านแอปออนไลน์กับครูชาวต่างชาติแบบตัวต่อตัว

scroll-top