เว็บฝึกฟังภาษาอังกฤษฟรี: 5 แหล่งเรียนรู้ที่ไม่ควรพลาด

เว็บฝึกฟังภาษาอังกฤษฟรี: 5 แหล่งเรียนรู้ที่ไม่ควรพลาด
  • กันยายน 12, 2025

บทนำ: หากคุณกำลังมองหา เว็บฝึกฟังภาษาอังกฤษฟรี ที่ช่วยพัฒนาทักษะการฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เรารวบรวม 5 แหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ เพื่อให้คุณเข้าใจสำเนียงเจ้าของภาษา ฝึกจับคำศัพท์ และพัฒนาการสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเหมาะกับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการฟังในระดับที่สูงขึ้น

1. YouTube ช่องเรียนภาษาอังกฤษแนะนำ

YouTube เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีเยี่ยมและเข้าถึงได้ง่าย มีช่องเรียนภาษาอังกฤษฟรีมากมาย เช่น BBC Learning English, VOA Learning English และช่องต่างๆ ที่เป็นภาษาไทยสำหรับผู้เริ่มต้น เนื้อหาของช่องเหล่านี้มักจะมีซับไตเติลภาษาอังกฤษเพื่อช่วยในการฝึกฟังและเข้าใจบทสนทนาได้ดีขึ้น

  • เนื้อหามีหลากหลายทั้งข่าว สาระ และบทสนทนาประจำวัน
  • ช่องบางช่องมีคลิปสอนการออกเสียงสำเนียงต่างๆ ของเจ้าของภาษา
  • เหมาะกับการเรียนรู้ทุกระดับ
  • เข้าถึงง่าย และสามารถเรียนได้ฟรีทุกที่ทุกเวลา

2. พอดแคสต์ภาษาอังกฤษ

พอดแคสต์เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษ เพราะคุณสามารถฟังได้ในทุกสถานการณ์ เช่น ตอนขับรถ หรือขณะออกกำลังกาย เช่น พอดแคสต์ “The English We Speak” หรือ “All Ears English” ซึ่งมีรูปแบบการเรียนที่เป็นธรรมชาติและสนุกสนาน การฟังพอดแคสต์ที่มีการฝึกพูดและแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยจะช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น การฟังพอดแคสต์วันละ 15 นาทีช่วยเพิ่มความเข้าใจและพัฒนาทักษะการฟังได้อย่างรวดเร็ว [British Council]

3. เว็บไซต์และแพลตฟอร์มฝึกฟัง

หลายเว็บไซต์ให้บริการฝึกฟังภาษาอังกฤษฟรี โดยมีแบบฝึกหัดต่างๆ ที่ช่วยทดสอบความเข้าใจหลังการฟัง เช่น 51Talk ที่มีครูผู้สอนต่างชาติที่มีใบรับรอง TESOL คอยสอนแบบสด (ออนไลน์) และสามารถทดลองเรียนฟรีได้ ด้วยเนื้อหาที่เหมาะสมกับทุกระดับ ผู้เรียนจะได้ฝึกฟังการสนทนาในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์อื่นๆ เช่น Elllo และ ESL Fast ที่มีไฟล์เสียงและแบบทดสอบที่ช่วยเพิ่มทักษะการฟัง

แพลตฟอร์มคุณสมบัติเด่นเหมาะสำหรับ
51Talkเรียนตัวต่อตัว, ครูมีใบรับรอง TESOL, สามารถทดลองเรียนฟรีผู้เริ่มต้นถึงระดับกลาง
Ellloบทสนทนาหลากหลายสำเนียง, ไฟล์เสียงและสคริปต์ผู้ที่อยากฝึกฟังสำเนียงต่างๆ
ESL Fastบทสนทนาสั้นพร้อมแบบทดสอบผู้ที่ต้องการฝึกทุกวัน

4. แอปพลิเคชันมือถือ

แอปพลิเคชันมือถือที่ช่วยฝึกภาษาอังกฤษอย่าง Duolingo, Cake, และ ELSA Speak เป็นแอปที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีระบบการฝึกที่ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ และสามารถฝึกฟังได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนให้คุณไม่ลืมฝึกทุกวัน การใช้แอปพลิเคชันนี้ต่อเนื่อง 3 เดือนจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการฟังและพูดได้ดีขึ้น โดยจากข้อมูลของ EdTech Review ผู้ที่ฝึกภาษาอังกฤษผ่านแอปพลิเคชันอย่างต่อเนื่องสามารถเข้าใจบทสนทนาในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นถึง 60%

5. การฝึกกับสื่อจริง

การฝึกฟังภาษาอังกฤษจากสื่อจริง เช่น การดูหนัง ฟังเพลง หรือข่าวภาษาอังกฤษ ช่วยให้คุณได้เรียนรู้คำศัพท์และสำนวนที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน เริ่มจากการเปิดซับไตเติลภาษาอังกฤษและค่อยๆ ลองปิดซับเพื่อลองฟังและจับใจความ การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณฝึกฟังได้เร็วขึ้นและสามารถเข้าใจบทสนทนาได้ดียิ่งขึ้น

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการฝึกฟัง

  • ตั้งเป้าฟังวันละ 15-30 นาที และเพิ่มเวลาเมื่อเริ่มรู้สึกคุ้นเคย
  • จดคำศัพท์ใหม่ทุกครั้งที่ได้ยิน และนำมาใช้ในประโยค
  • ทบทวนเนื้อหาที่ฟังไปแล้วสัปดาห์ละครั้งเพื่อให้จำได้ดีขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

ควรฝึกฟังวันละเท่าไหร่?

แนะนำให้เริ่มจากการฟังวันละ 15 นาที แล้วค่อยเพิ่มเป็น 30 นาทีเมื่อคุณเริ่มคุ้นเคยกับการฟังภาษาอังกฤษ

ถ้าไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษเลยจะเริ่มได้ไหม?

ทำได้ค่ะ เริ่มจากการฟังเนื้อหาที่ง่ายและมีซับไตเติล พร้อมฟังซ้ำหลายๆ ครั้งเพื่อให้คุ้นเคยกับการฟัง

การเลือกครูออนไลน์ควรเลือกแบบไหน?

ควรเลือกครูที่มีใบรับรอง TESOL หรือ TEFL เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพการสอน ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับการสอนที่มีมาตรฐานและเหมาะสมกับการพัฒนาทักษะการฟัง

สรุป: การเลือก เว็บฝึกฟังภาษาอังกฤษฟรี ที่เหมาะสมและฝึกอย่างสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษของคุณได้อย่างรวดเร็ว โดยการฝึกผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube, พอดแคสต์, เว็บไซต์ต่างๆ และแอปพลิเคชันมือถือ จะช่วยให้คุณมีทักษะการฟังที่ดียิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

Related Post

รับฟรี! คลาสเรียนภาษาอังกฤษมูลค่า 1,500 บาท

This field is required.
ฟิลด์นี้จำเป็นต้องระบุ.
Về tôi

51Talk แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เรียนผ่านแอปออนไลน์กับครูชาวต่างชาติแบบตัวต่อตัว

scroll-top