
สรุปสั้น ๆ หากคุณกำลังมองหาแหล่งเรียน Speaking Online ที่มีคุณภาพ คำตอบคือ ต้องเลือกคอร์สที่มีผู้เรียนจำนวนมาก การันตีด้วยผลลัพธ์และรีวิวที่น่าเชื่อถือ บทความนี้จะพาคุณสำรวจตัวเลือกต่าง ๆ เปรียบเทียบจุดเด่น ข้อเสีย และวิธีเลือกคอร์สที่เหมาะกับเป้าหมายของคุณ พร้อมข้อมูลอัปเดตล่าสุด 2025

ทำไมการเรียน Speaking Online ถึงได้รับความนิยมในปี 2025
- ยืดหยุ่นเรื่องเวลา เลือกเรียนได้ตามสะดวก
- ไม่ต้องเดินทาง ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา
- เข้าถึงครูเจ้าของภาษาและครูที่มีใบรับรอง TESOL
- ได้ฝึกพูดจริงแบบโต้ตอบทันที ช่วยพัฒนาความมั่นใจ
ปัจจุบันคนไทยจำนวนมากเลือกเรียน Speaking Online เพราะช่วยให้กล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น สามารถใช้ในการทำงาน ท่องเที่ยว หรือสอบสัมภาษณ์ได้จริง
เปรียบเทียบคอร์ส Speaking Online ยอดนิยมในไทย
แพลตฟอร์ม | ราคาเริ่มต้น (บาท/ชม.) | ครูเจ้าของภาษา | มี TESOL | จำนวนผู้เรียน (โดยประมาณ) | จุดเด่น |
---|---|---|---|---|---|
51Talk | 350 | ✔ | ✔ | 200,000+ | ราคาคุ้มค่า ครูฟิลิปปินส์มืออาชีพ มีระบบเรียนชัดเจน |
Cambly | 450 | ✔ | ✔ | 120,000+ | เน้นฝึกพูดกับ Native มีหัวข้อบทสนทนาให้เลือก |
Preply | 500 | ✔ | ✔ | 90,000+ | เลือกครูได้หลากหลาย รีวิวละเอียด |
iTalki | 400 | ✔ | ✔ | 110,000+ | มีทั้งครูเจ้าของภาษาและครูสองภาษา ค่าเรียนยืดหยุ่น |
Wall Street English | 900 | ✔ | ✔ | 60,000+ | สถาบันชื่อดัง เน้นทักษะธุรกิจและงานอาชีพ |
(ข้อมูลอ้างอิงจากแต่ละเว็บไซต์ผู้ให้บริการ ปี 2025)

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกเรียน Speaking Online
- เป้าหมายของคุณคืออะไร
- ต้องการพูดได้ในชีวิตประจำวัน?
- เตรียมสอบ TOEIC, IELTS หรือสัมภาษณ์งาน?
- งบประมาณที่ตั้งไว้
- ถ้างบจำกัด 300-500 บาท/ชม. ควรเลือกแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk หรือ iTalki
- ถ้ามองหาระบบเรียนเต็มรูปแบบและมีเจ้าหน้าที่ดูแล อาจพิจารณา Wall Street English
- ความสะดวกด้านเวลาและช่องทางเรียน
- มีแอปพลิเคชันบนมือถือหรือไม่
- สามารถเรียนผ่าน Zoom, Google Meet หรือระบบเฉพาะของแพลตฟอร์ม
- คุณสมบัติของครูผู้สอน
- มีใบรับรอง TESOL หรือไม่?
- มีประสบการณ์สอนกับผู้เรียนไทยหรือผู้เริ่มต้นหรือไม่?
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนภาษา
“หากคุณเป็นผู้เริ่มต้น อย่าเพิ่งโฟกัสที่ความเร็ว แต่ให้เน้นความสม่ำเสมอและคุณภาพของบทสนทนาในแต่ละครั้ง เลือกครูที่มีประสบการณ์กับผู้เรียนระดับ 0 หรือเริ่มต้นใหม่จะดีที่สุด” – ครูพีช, ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์
“TESOL ไม่ใช่แค่ใบรับรอง แต่เป็นหลักฐานว่าครูมีความเข้าใจในวิธีสื่อสารกับผู้เรียนต่างชาติ ซึ่งมีผลอย่างยิ่งกับการพัฒนาทักษะ Speaking” – อ.จอห์น, อดีตที่ปรึกษาหลักสูตร English First International
ข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแพลตฟอร์ม (แบบสรุป)
- 51Talk: คุ้มค่าราคา ครูเป็นมิตร ระบบดีเยี่ยม แต่บางครั้งอาจมีสำเนียงไม่ใช่ Native เต็มรูปแบบ
- Cambly: ได้เรียนกับเจ้าของภาษาแท้ ๆ เหมาะกับระดับกลางขึ้นไป แต่ค่าเรียนสูงกว่า
- iTalki / Preply: เลือกครูได้ตามงบประมาณ แต่ต้องจัดตารางเรียนเอง ไม่มีระบบคอร์สชัดเจนเท่าแพลตฟอร์มอื่น
- Wall Street English: มีระบบและทีมซัพพอร์ตดี แต่ราคาแพงและไม่ยืดหยุ่น
วิธีเริ่มต้นเรียน Speaking Online อย่างได้ผล
- เรียนสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2-3 ครั้ง/สัปดาห์
- จดคำศัพท์และประโยคที่ใช้บ่อยหลังเรียนแต่ละครั้ง
- ใช้เทคนิค “Shadowing” พูดตามครูทันทีเพื่อพัฒนาเสียงและจังหวะ
- บันทึกเสียงตัวเองและฟังซ้ำเพื่อวิเคราะห์
- ขอ Feedback จากครูทุกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: เรียน Speaking Online ที่ไหน ดี สำหรับคนไม่มีพื้นฐานเลย?
A: 51Talk และ iTalki เหมาะมาก เพราะมีครูที่เข้าใจผู้เริ่มต้น ระบบไม่ซับซ้อน
Q: ถ้าอยากพูดสำเนียงเหมือนเจ้าของภาษา ต้องเลือกแบบไหน?
A: Cambly หรือ Preply ที่เลือกครูจากสหรัฐฯ อังกฤษ หรือแคนาดาโดยตรงจะเหมาะที่สุด
Q: ควรเรียนกับเจ้าของภาษาหรือครูที่พูดไทยได้?
A: สำหรับผู้เริ่มต้น ครูที่เข้าใจภาษาไทยหรือเคยสอนผู้เรียนไทยจะช่วยอธิบายได้ชัดเจนขึ้น แต่เมื่อมีพื้นฐานแล้ว ควรเปลี่ยนไปเรียนกับเจ้าของภาษาเพื่อพัฒนาทักษะจริง
Q: การเรียนออนไลน์จะได้ผลจริงหรือไม่?
A: หากเรียนอย่างสม่ำเสมอ ฝึกพูดจริง และมี Feedback ที่ดี ผลลัพธ์จะเทียบเท่าการเรียนแบบตัวต่อตัวทั่วไป
สรุป การเรียน Speaking Online เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะกับยุคดิจิทัลในปี 2025 หากคุณกำลังสงสัยว่า “เรียน Speaking Online ที่ไหน ดี” คำตอบจะขึ้นอยู่กับเป้าหมาย งบประมาณ และสไตล์การเรียนของคุณ การเปรียบเทียบแพลตฟอร์มต่าง ๆ และเลือกคอร์สที่ตรงกับความต้องการ จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ