เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่ไหนดี? 10 แหล่งเรียนที่ดีที่สุดในปี 2025

เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่ไหนดี? 10 แหล่งเรียนที่ดีที่สุดในปี 2025
  • กรกฎาคม 24, 2025

การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นในการเรียน คุณสามารถเลือกเวลาเรียนได้ตามต้องการ และยังสามารถเลือกเรียนกับครูผู้สอนจากทั่วทุกมุมโลก ในบทความนี้เราจะพาคุณไปพบกับ 10 แหล่งเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ดีที่สุดในปี 2025 พร้อมแนะนำข้อดีข้อเสียของแต่ละแหล่งเรียน

ทำไมควรเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์?

การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ในยุคปัจจุบันมีข้อดีหลายประการที่ทำให้หลายคนหันมาใช้วิธีนี้ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

  • สะดวก: สามารถเรียนที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต
  • ยืดหยุ่น: เลือกเวลาเรียนได้ตามความสะดวกของตัวเอง
  • เลือกครูได้: คุณสามารถเลือกครูที่ตรงกับความต้องการและเป้าหมายการเรียนรู้ของตัวเอง

แหล่งเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ดีที่สุดในปี 2025

หากคุณกำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีคุณภาพในปี 2025 นี้ เราได้คัดเลือก 10 แหล่งเรียนที่ดีที่สุดที่เหมาะสมกับผู้เรียนทุกระดับ

1. 51Talk

51Talk เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย โดยเฉพาะสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับครูต่างชาติที่มีประสบการณ์

ข้อดีของ 51Talk:

  • เรียนกับครูต่างชาติที่มีใบรับรอง TESOL
  • คอร์สเรียนมีหลากหลายระดับ
  • ราคาเรียนที่ค่อนข้างยืดหยุ่น

2. Cambly

Cambly เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับครูเจ้าของภาษา ซึ่งมีจุดเด่นในการเรียนแบบตัวต่อตัว

ข้อดีของ Cambly:

  • เรียนกับครูเจ้าของภาษา
  • เลือกครูที่เหมาะสมกับความต้องการ
  • มีคอร์สที่เหมาะสมกับทุกระดับ

ข้อเสีย:

  • ราคาอาจสูงกว่าคอร์สอื่นๆ
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาในด้านอื่นๆ เช่น การเขียนหรือการอ่าน

3. Preply

Preply เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกครูที่มีประสบการณ์และมีทักษะในการสอนตามที่คุณต้องการ

ข้อดีของ Preply:

  • เลือกครูได้ตามราคาและประสบการณ์
  • ระบบการจองเรียนที่สะดวก
  • มีคอร์สให้เลือกหลากหลาย

ข้อเสีย:

  • ราคาคอร์สอาจแตกต่างกันไปตามครู
  • ต้องใช้เวลาในการค้นหาครูที่ตรงกับความต้องการ

4. EnglishClass101

EnglishClass101 มุ่งเน้นการเรียนภาษาอังกฤษในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและมีโครงสร้างการเรียนที่ชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ในเวลาจำกัด

ข้อดีของ EnglishClass101:

  • สื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ
  • สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในเวลาจำกัด

ข้อเสีย:

  • อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนแบบตัวต่อตัว
  • ราคาเรียนอาจสูงขึ้นในบางแพ็กเกจ

5. EF English Live

EF English Live เป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงในการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ โดยมีคอร์สที่หลากหลายและสามารถเรียนได้ตามเวลาที่สะดวก

ข้อดีของ EF English Live:

  • มีครูเจ้าของภาษาให้เลือกมากมาย
  • คอร์สที่สามารถเรียนได้ในเวลาที่ยืดหยุ่น
  • มีการฝึกฝนทักษะการพูดและการเขียน

ข้อเสีย:

  • ราคาเรียนอาจค่อนข้างสูง
  • ระบบการเรียนอาจยุ่งยากสำหรับผู้เริ่มต้น

6. Italki

Italki เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเรียนทั่วโลก เพราะมีการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ยืดหยุ่น โดยสามารถเลือกเรียนกับครูที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์

ข้อดีของ Italki:

  • มีครูหลากหลายประเภททั้งครูเจ้าของภาษาและครูที่เป็นเจ้าของภาษาไทย
  • เลือกเวลาเรียนได้ตามต้องการ
  • ราคาเรียนที่ยืดหยุ่นขึ้นอยู่กับครู

ข้อเสีย:

  • ราคาคอร์สอาจสูงกว่าบางแพลตฟอร์ม
  • ต้องเลือกครูที่ตรงกับความต้องการของผู้เรียน

7. Lingoda

Lingoda มุ่งเน้นการเรียนการสอนแบบออนไลน์ด้วยการใช้ห้องเรียนกลุ่ม ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกทักษะการพูดในสภาพแวดล้อมที่มีการแลกเปลี่ยน

ข้อดีของ Lingoda:

  • มีการเรียนการสอนที่มีโครงสร้างชัดเจน
  • มีการเรียนแบบกลุ่มที่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนร่วมเรียนได้

ข้อเสีย:

  • การเรียนในกลุ่มอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนแบบตัวต่อตัว
  • ราคาคอร์สอาจสูงเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ

8. Busuu

Busuu มีระบบการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีในการฝึกภาษาอังกฤษ รวมถึงแบบฝึกหัดและบททดสอบที่ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะภาษาได้อย่างรวดเร็ว

ข้อดีของ Busuu:

  • สามารถเรียนได้จากทุกที่
  • ใช้เครื่องมือการเรียนการสอนที่ทันสมัย

ข้อเสีย:

  • ไม่มีการเรียนแบบตัวต่อตัว
  • บางฟีเจอร์มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

9. Verbling

Verbling เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เน้นการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับครูเจ้าของภาษา มีครูจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือก

ข้อดีของ Verbling:

  • มีครูเจ้าของภาษาให้เลือกมากมาย
  • สามารถเลือกเรียนได้ตามความต้องการของผู้เรียน

ข้อเสีย:

  • ราคาคอร์สอาจแตกต่างกันไปตามครู
  • ต้องใช้เวลาในการค้นหาครูที่เหมาะสม

10. Skyeng

Skyeng เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในด้านการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ มีการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย

ข้อดีของ Skyeng:

  • ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการสอน
  • มีคอร์สที่หลากหลายทั้งในรูปแบบตัวต่อตัวและกลุ่ม

ข้อเสีย:

  • ราคาคอร์สค่อนข้างสูง
  • บางครั้งอาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลาการเรียน

วิธีการเลือกแหล่งเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

การเลือกแหล่งเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์นั้นควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ระดับความสามารถของตัวเอง งบประมาณที่มี และประเภทของการเรียนที่คุณต้องการ

คำแนะนำในการเลือกแพลตฟอร์ม:

  • เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับระดับการเรียนของคุณ
  • เลือกแพลตฟอร์มที่มีครูที่มีใบรับรอง TESOL หรือครูเจ้าของภาษา
  • พิจารณาค่าใช้จ่ายในการเรียนแต่ละแพลตฟอร์ม

คำถามที่พบบ่อย

Q1: การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือไม่?
A1: ใช่, การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากหลายแพลตฟอร์มมีคอร์สสำหรับผู้เริ่มต้น และสามารถเรียนได้ตามความสะดวก

Q2: แพลตฟอร์มไหนที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว?
A2: Cambly และ 51Talk เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับการเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูเจ้าของภาษา

สรุป

การเลือกแหล่งเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ในปี 2025 มีตัวเลือกที่หลากหลายและเหมาะสมกับผู้เรียนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูเจ้าของภาษา หรือการเรียนกับครูผู้สอนจากทั่วโลก โดยคุณสามารถเลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับความต้องการของคุณได้ตามงบประมาณและเวลา

Related Post

รับฟรี! คลาสเรียนภาษาอังกฤษมูลค่า 1,500 บาท

This field is required.
ฟิลด์นี้จำเป็นต้องระบุ.
Về tôi

51Talk แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เรียนผ่านแอปออนไลน์กับครูชาวต่างชาติแบบตัวต่อตัว

scroll-top