สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร? อธิบายครบจบใน 5 นาที

สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร? อธิบายครบจบใน 5 นาที
  • ธันวาคม 19, 2025

สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร ให้จำไว ใช้ได้ทันที—สูตรบอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม คำบอกเวลา และตัวอย่างใช้จริง

ถ้าคุณกำลังถามว่า “สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร” ให้เข้าใจในเวลาไม่นาน คำตอบคือ: จำแค่ 3 แบบหลัก (บอกเล่า/ปฏิเสธ/คำถาม) + รู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้ + แยก “กริยาเติม -ed” กับ “คำกริยาไม่ปกติ” แล้วฝึกเล่าเรื่องสั้น ๆ จากสิ่งที่ทำจริงในชีวิตประจำวัน คุณจะเริ่มใช้ Past Simple ได้แบบไม่ต้องท่องยาว บทความนี้สรุปโครงสร้าง Past Simple แบบตรงไปตรงมา มีตารางเทียบให้เห็นภาพ รวมคำบอกเวลาในอดีตที่ใช้บ่อย ประโยคคำถาม Past Simple ที่คนมักพลาด และเทคนิคฝึกให้ใช้ได้จริงสำหรับคนเริ่มจากศูนย์

ภาพรวมแบบเร็วใน 5 นาที

Past Simple ใช้เมื่อพูดถึง “เหตุการณ์ในอดีตที่จบแล้ว” หรือ “ความจริงในอดีต” จุดสำคัญคือเวลาเกิดขึ้นชัดเจน (มีคำบอกเวลาในอดีต) หรือบริบทชี้ว่าจบไปแล้ว ถ้าคุณอยากสรุปโครงสร้าง Past Simple ให้จบไว ให้ยึดหลักนี้: กริยาช่อง 2 (verb 2) ใช้เฉพาะประโยคบอกเล่า แต่ในประโยคปฏิเสธและคำถาม ให้กลับไปใช้กริยาช่อง 1 เสมอ

  • บอกเล่า: Subject + Verb2 + (Object/ส่วนขยาย)
  • ปฏิเสธ: Subject + did not (didn’t) + Verb1
  • คำถาม: Did + Subject + Verb1 ?

ถ้าคุณกำลังถามว่า “สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร” ให้ใช้ได้ทันที ลองจำเป็นประโยคแม่แบบ 3 บรรทัดด้านบน แล้วเริ่มแต่งประโยคจากเรื่องที่คุณทำเมื่อวาน จากนั้นค่อยเพิ่มรายละเอียด เช่น คำบอกเวลาในอดีต และคำกริยาไม่ปกติที่ใช้บ่อย

ลิงก์อ่านต่อในเว็บคุณ (บทที่เกี่ยวข้อง): Past Simple Tense โครงสร้าง เรียนรู้ใน 5 นาที, คู่มือเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษจาก 0

สูตร 3 แบบที่ต้องจำ (บอกเล่า/ปฏิเสธ/คำถาม)

1) ประโยคบอกเล่า: เล่า “ทำอะไรมา” แบบจบแล้ว

โครงสร้าง Past Simple ที่ใช้บ่อยที่สุดคือ Subject + Verb2 เช่น:
• I watched a movie last night.
• She went to the market yesterday.

เคล็ดลับจำไว: ถ้าประโยคนี้ “ไม่มี did” ให้ใช้ Verb2 ได้เลย นี่คือจุดที่ช่วยให้สรุปโครงสร้าง Past Simple ได้ไวแบบไม่สับสน (คีย์เวิร์ดที่คนชอบค้น: โครงสร้าง Past Simple, verb 2, คำกริยาไม่ปกติ)

2) ประโยคปฏิเสธ: พอมี did not ให้กลับไปใช้ Verb1

สูตรคือ Subject + didn’t + Verb1 ตัวอย่าง:
• I didn’t watch a movie last night.
• He didn’t go to school yesterday.

ข้อผิดพลาดที่เจอบ่อยมาก: เขียน didn’t went หรือ didn’t watched จำให้ขึ้นใจว่า didn’t + Verb1 เท่านั้น

3) ประโยคคำถาม: Did นำหน้า แล้วใช้ Verb1

สูตรคือ Did + Subject + Verb1 ? ตัวอย่าง:
Did you study yesterday?
Did she come home late?

คำถามแบบมี Wh- (What/Where/When/Why/How)

สูตรคือ Wh- + did + Subject + Verb1 ? ตัวอย่าง:
Where did you go yesterday?
What did he eat last night?

ถ้าคุณอยาก “สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร” ให้จบในหัวข้อเดียว ให้จำว่า ทุกครั้งที่มี did (didn’t/did) กริยาหลังสุดเป็นช่อง 1 เสมอ แค่นี้คุณจะลดข้อผิดพลาดไปได้เยอะมาก

กริยาเติม -ed และคำกริยาไม่ปกติ (verb 2)

จุดที่ทำให้คนเริ่มจากศูนย์สับสนคือ “verb 2 มาจากไหน” จริง ๆ มี 2 กลุ่มเท่านั้น: กริยาปกติ (เติม -ed) และ คำกริยาไม่ปกติ (ต้องจำรูปเฉพาะ) นี่คือหัวใจของการสรุปโครงสร้าง Past Simple ให้ถูกต้อง

กริยาปกติ: เติม -ed แต่มีตัวสะกดที่ต้องระวัง

  • work → worked
  • play → played
  • clean → cleaned
  • like → liked (ตัด e แล้วเติม -d)
  • stop → stopped (พยัญชนะท้ายซ้ำ แล้วเติม -ed)
  • study → studied (y → ied)

คำกริยาไม่ปกติ: ใช้บ่อยก่อน แล้วค่อยขยาย

ถ้าเพิ่งเริ่ม ไม่ต้องจำทั้งเล่ม ให้เริ่มจาก “ชุดที่ใช้บ่อยมาก” แล้วเอาไปแต่งประโยคทันที (คีย์เวิร์ดที่คนชอบค้น: คำกริยาไม่ปกติ, irregular verbs, กริยา 2 ช่อง, Past Simple ใช้อย่างไร)

Verb1Verb2ตัวอย่าง Past Simple
gowentI went to the gym yesterday.
comecameShe came home late.
eatateThey ate noodles last night.
seesawWe saw a cute dog.
havehadHe had a test yesterday.
dodidI did my homework.
makemadeShe made a sandwich.
getgotWe got home at 7 p.m.
taketookI took a photo.
writewroteHe wrote a short story.

เทคนิคให้จำไวขึ้น: จับ “คำกริยาไม่ปกติ” มาแต่งเป็นประโยคของตัวเองวันละ 5 ประโยค เช่น “เมื่อวานฉัน went… / ฉัน ate… / ฉัน saw…” วิธีนี้ช่วยให้สรุปโครงสร้าง Past Simple กลายเป็นทักษะ ไม่ใช่การท่อง

คำบอกเวลาในอดีตที่ช่วยให้เลือกกาลได้ถูก

หลายคนพลาด Past Simple เพราะประโยค “พูดถึงอดีต” แต่ไม่ได้ใส่คำบอกเวลา ทำให้ลังเลว่าจะใช้กาลไหน วิธีแก้ง่ายมาก: เติมคำบอกเวลาในอดีตให้ชัด แล้ว Past Simple จะ “ล็อก” เอง (คีย์เวิร์ดที่คนชอบค้น: คำบอกเวลาในอดีต, Past Simple ใช้เมื่อไหร่, โครงสร้าง Past Simple)

  • yesterday (เมื่อวาน)
  • last night / last week / last month / last year
  • … ago เช่น two days ago, three weeks ago
  • in 2019 / in 2020 (ปีที่ระบุชัด)
  • when I was… (ตอนที่ฉัน…)

ตัวอย่างที่ใช้ได้ทันที:
• I called you yesterday.
• We met two years ago.
• She studied English in 2021.

ถ้าอยาก “สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร” ให้จำแบบง่าย ๆ: เจอคำว่า yesterday/last/… ago/ปีที่ระบุชัด → Past Simple แล้วเอาสูตร 3 แบบจากหัวข้อก่อนหน้ามาใส่ลงไป

ตารางเปรียบเทียบกับกาลที่ชอบสับสน

เวลาอ่านบทสรุปทั่วไป หลายคนได้สูตร แต่ยัง “เลือกใช้ผิดสถานการณ์” ตารางนี้ช่วยตัดสินใจให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะเวลาต้องเทียบกับ Present Perfect หรือ Past Continuous (คีย์เวิร์ดที่คนชอบค้น: Past Simple vs Present Perfect, Past Continuous กับ Past Simple, สรุป Past Simple 5 นาที)

สถานการณ์กาลที่เหมาะตัวอย่างสัญญาณที่เห็นบ่อย
เหตุการณ์จบแล้ว เวลาในอดีตชัดPast SimpleI visited Chiang Mai in 2022.in 2022, yesterday, last…
พูดถึง “ประสบการณ์” ไม่เน้นเวลาPresent PerfectI have visited Chiang Mai.ever, never, already, yet
เหตุการณ์กำลังเกิด “ค้างอยู่” ในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์แทรกPast Continuous + Past SimpleI was studying when he called.when, while

ถ้าคุณอยากอ่านบทที่เกี่ยวข้องในเว็บคุณเพื่อใช้ทำลิงก์ภายในแบบธรรมชาติ: โครงสร้าง Present Perfect: วิธีใช้และตัวอย่าง (เหมาะมากสำหรับบท “เปรียบเทียบ Past Simple กับ Present Perfect”)

จุดพลาดยอดฮิตและวิธีแก้แบบทันที

พลาด 1: ใส่ Verb2 หลัง did/didn’t

ผิด: Did you went yesterday?
ถูก: Did you go yesterday?
วิธีแก้: เจอ did เมื่อไหร่ ให้สลับกลับ Verb1 ทันที นี่คือทางลัดของคนที่อยากสรุปโครงสร้าง Past Simple ให้ไม่หลุด

พลาด 2: เล่าอดีต แต่ใช้คำบอกเวลาที่ไม่ชัด

ถ้าคุณพูด “I watched a movie.” ได้ แต่ยังไม่มั่นใจ ให้เติมคำบอกเวลา: “I watched a movie last night.” พอเวลาชัด สมองจะเลือก Past Simple ได้ง่ายขึ้น

พลาด 3: สลับใช้ was/were + verb2 แบบไม่จำเป็น

Past Simple ไม่ต้องมี was/were ทุกประโยค
• I was happy. (เป็น “สถานะ” ใช้ was ได้)
• I played football. (เป็น “การกระทำ” ใช้ verb2)

พลาด 4: จำคำกริยาไม่ปกติแบบแยกเดี่ยว

ถ้าจำไปแล้วลืมเร็ว ให้ผูกกับประโยคจริง เช่น “I went… / I ate… / I saw… / I took…” ยิ่งใช้บ่อย คำกริยาไม่ปกติจะติดเอง

หมายเหตุเรื่องแนวสอน: งานวิจัยสรุปเชิงปริมาณหลายชิ้นพบว่า “การสอนแบบชัดเจน” ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาได้จริง โดยรายงานค่าอิทธิพลอยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างสูง (ตัวอย่าง meta-analysis: d ≈ 0.81–1.07) เพราะฉะนั้น การสรุปโครงสร้าง Past Simple ให้ชัดตั้งแต่ต้น ไม่ได้ทำให้ภาษาแข็งอย่างเดียว แต่ช่วยให้เอาไปใช้ได้เร็วขึ้น

แผนฝึก 7 วันจากศูนย์ให้ใช้ได้จริง

แผนนี้ออกแบบให้คนเริ่มจากศูนย์ “ใช้ Past Simple ได้” ไม่ใช่แค่ทำแบบฝึกหัด หลักคือ: วันละนิด แต่ทำทุกวัน และทุกวันต้อง “พูด/เขียน” เป็นประโยคของตัวเอง (คีย์เวิร์ดที่คนชอบค้น: แบบฝึกหัด Past Simple, Past Simple คำถาม, โครงสร้าง Past Simple ง่าย ๆ)

วัน 1: ตั้งชุดประโยคแม่แบบ 10 ประโยค

  • ฉันทำอะไรเมื่อวาน 5 ประโยค (บอกเล่า)
  • ฉันไม่ได้ทำอะไร 3 ประโยค (ปฏิเสธ)
  • ถามตัวเอง 2 คำถาม (Did…?)

ตัวอย่าง:
• I studied English yesterday.
• I didn’t watch TV last night.
• Did I drink enough water yesterday?

วัน 2: เพิ่มคำบอกเวลาในอดีต 10 คำ

เลือกคำบอกเวลาในอดีตที่ใช้บ่อย (yesterday, last night, … ago) แล้วบังคับให้ตัวเองใส่ในทุกประโยค คุณจะเลือก Past Simple ได้อัตโนมัติเร็วขึ้น

วัน 3: ฝึกคำกริยาไม่ปกติชุดแรก 12 คำ

ใช้ตารางในหัวข้อก่อนหน้า แล้วแต่งประโยคคำละ 2 ประโยค คำที่แนะนำ: go/went, come/came, eat/ate, see/saw, do/did, have/had, make/made, get/got, take/took, write/wrote (นี่คือแกนของ “สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร” แบบจำแล้วใช้ได้)

วัน 4: ฝึกคำถาม + ตอบสั้นให้คล่อง

ฝึกแบบ “ถาม-ตอบ” 10 คู่:
Q: Did you study yesterday?
A: Yes, I did. / No, I didn’t.
Q: Where did you go last weekend?
A: I went to…

วัน 5: เล่าเรื่อง 6 ประโยค (สั้น ๆ แต่ครบ)

เลือกเรื่องเดียว เช่น “เมื่อวานทั้งวัน” แล้วเขียน 6 ประโยคโดยต้องมี:
• 4 ประโยคบอกเล่า + 1 ประโยคปฏิเสธ + 1 ประโยคคำถาม

วัน 6: ตรวจจุดพลาดด้วยเช็กลิสต์ 5 ข้อ

  • มี did/didn’t ไหม? ถ้ามี กริยาหลังสุดเป็น Verb1 หรือยัง
  • ประโยคบอกเล่าใช้ Verb2 ถูกไหม
  • มีคำบอกเวลาในอดีตอย่างน้อย 1 จุดไหม
  • คำกริยาไม่ปกติใช้รูปถูกไหม
  • ประโยคอ่านแล้วรู้ว่า “จบแล้ว” ไหม

วัน 7: ซ้อมพูด 2 นาที + บันทึกเสียง

พูดเล่าเรื่องเดียวกับวัน 5 แบบไม่อ่านโพย 2 นาที แล้วฟังย้อน ถ้าหลุด ให้จดประโยคที่พลาด แล้วแก้ด้วยสูตร 3 แบบหลัก

ถ้าคุณอยากมีบทเรียนเป็นขั้นตอนและยืดหยุ่น สามารถทำเป็น “บทเสริม” ผ่าน 51Talk Thailand ได้ โดยเลือกคลาสที่เน้นประโยคสั้น ๆ และให้ครูช่วยจับผิด did/Verb1 ให้ทันที อีกหน้าที่เชื่อมโยงได้ดี: แพ็กเกจเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานปี 2025, 51Talk app: ทางเลือกเรียนอังกฤษออนไลน์

เกร็ดจากงานวิจัยด้านการทบทวนคำศัพท์แบบเว้นระยะ: การฝึกวันละไม่กี่นาทีแต่ทำต่อเนื่อง สามารถเพิ่มการคงอยู่ของคำศัพท์ระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ (รายงานหนึ่งระบุว่าผู้เรียนที่ทำกิจกรรมเฉลี่ยวันละ ~3 นาที มีอัตราการจำระยะยาวเพิ่มขึ้นหลายเท่า) แนวคิดเดียวกันนี้นำมาใช้กับ Past Simple ได้: วันละนิด แต่ “ใช้จริง”

กรณีศึกษาและผลลัพธ์จริง

โปรไฟล์ครูผู้สอนและแนวทางที่ใช้

ผู้เขียนเป็นผู้สอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กและผู้เริ่มจากศูนย์มากกว่า 10 ปี เน้นการสอนแบบ “สั้น ชัด ใช้ได้ทันที” โดยให้ผู้เรียนพูด/เขียนจากเรื่องจริง แล้วแก้ให้ตรงจุด (did/Verb1, verb2, คำบอกเวลาในอดีต) สำหรับการเลือกครูต่างชาติหรือครูผู้สอนออนไลน์ แนะนำให้ตรวจสอบว่ามีวุฒิ/หลักสูตรด้านการสอนภาษาอังกฤษ เช่น TESOL/TEFL หรือการอบรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อความมั่นใจด้านมาตรฐานการสอน

เคส 1: จาก “แต่งประโยคไม่ออก” ไปสู่ “เล่าเรื่องเมื่อวานได้ 8–10 ประโยค”

ปัญหาตั้งต้น: ผู้เรียนจำคำศัพท์ได้บ้าง แต่เรียงประโยค Past Simple ไม่เป็น มักสลับ did กับ verb2 และไม่ใส่คำบอกเวลาในอดีต
แผนที่ใช้: 7 วันตามหัวข้อก่อนหน้า + เพิ่มกิจกรรม “ถาม-ตอบ 10 คู่” ทุกวัน
ผลที่เห็น: ผู้เรียนเริ่มเล่าเรื่องสั้นเกี่ยวกับเมื่อวานได้คล่องขึ้นอย่างชัดเจน โดยข้อผิดพลาด did+verb2 ลดลงมาก และเริ่มใช้คำบอกเวลาในอดีตได้ถูกตำแหน่ง

เคส 2: ทำข้อสอบไวยากรณ์ได้ แต่พูดไม่ออก → แก้ด้วย “สคริปต์ 60 วินาที”

ปัญหาตั้งต้น: ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดเลือกคำตอบได้ แต่พูดจริงชอบหยุดกลางประโยค
แผนที่ใช้: เขียนสคริปต์ 60 วินาที 1 เรื่อง/วัน (6 ประโยค) บังคับให้มี 1 ปฏิเสธ + 1 คำถาม แล้วอัดเสียง
ผลที่เห็น: ความเร็วในการพูดดีขึ้น และการเลือก verb2 เริ่ม “อัตโนมัติ” มากขึ้น เพราะประโยคซ้ำในบริบทจริง

ตัวอย่าง “สคริปต์ 60 วินาที” ที่นำไปใช้ได้ทันที

Yesterday, I woke up early. I took a shower and ate breakfast. I went to work at 9 a.m. I didn’t drink coffee. After work, I met my friend. Did I feel tired? Yes, I did.

ข้อสำคัญ: กรณีศึกษานี้เป็นตัวอย่างจากการสอนจริงของผู้เขียน ผลลัพธ์อาจแตกต่างตามเวลาและความสม่ำเสมอในการฝึก แต่ถ้าทำตามหลัก “สูตร 3 แบบ + คำบอกเวลา + ฝึกใช้จริง” คุณจะเห็นพัฒนาการไวขึ้นมาก และนี่คือคำตอบแบบใช้งานได้ของคำถาม “สรุปโครงสร้างประโยค Past Simple ได้อย่างไร”

คำถามที่พบบ่อย

1) Past Simple ใช้เมื่อไหร่แน่ ๆ?

ใช้เมื่อพูดถึงเหตุการณ์หรือสถานะในอดีตที่ “จบแล้ว” โดยเฉพาะเมื่อมีคำบอกเวลาในอดีต เช่น yesterday, last…, … ago หรือปีที่ระบุชัด

2) ทำไมประโยคปฏิเสธถึงไม่ใช้ verb2?

เพราะ did ทำหน้าที่เป็นตัวบอกอดีตอยู่แล้ว ดังนั้นกริยาหลัง did/didn’t ต้องเป็นช่อง 1 เสมอ: didn’t + Verb1

3) ถ้าจำคำกริยาไม่ปกติไม่ได้ ควรเริ่มยังไง?

เริ่มจาก 10–12 คำที่ใช้บ่อย (go, come, eat, see, do, have, make, get, take, write) แล้วแต่งเป็นประโยคจริงวันละ 2 ประโยค/คำ วิธีนี้เร็วกว่าเปิดตารางแล้วท่องยาว

4) อยากฝึกให้พูดได้ ไม่ใช่แค่ทำแบบฝึกหัด ทำอะไรเพิ่ม?

ทำ “สคริปต์ 60 วินาที” วันละ 1 เรื่อง และอัดเสียง ฟังย้อนแล้วแก้ 2 จุด: did/Verb1 และการเลือก verb2 ถ้าอยากได้ครูช่วยฟีดแบ็กทันที สามารถใช้คลาสสดกับ 51Talk Thailand เป็นตัวช่วยได้

5) ถ้าจะสรุปโครงสร้าง Past Simple ให้จำใน 1 นาที ควรจำประโยคอะไร?

จำ 3 บรรทัดนี้:
• Subject + Verb2
• Subject + didn’t + Verb1
• Did + Subject + Verb1 ?
แล้วเติมคำบอกเวลาในอดีต 1 จุด คุณจะ “ใช้งานได้ทันที”

แหล่งอ้างอิงและหมายเหตุ

แหล่งอ้างอิง

  1. British Council (LearnEnglish) – Past simple (อธิบายการใช้ Past Simple และตัวอย่าง) อ่านข้อมูล
  2. Cambridge Dictionary (English Grammar Today) – Past simple (I worked) (โครงสร้างและการใช้ในบริบทต่าง ๆ) อ่านข้อมูล
  3. ERIC (Full text) – The effectiveness of computer-based spaced repetition in foreign language vocabulary (งานวิจัยเรื่องการทบทวนแบบเว้นระยะ) อ่านเอกสาร
  4. ERIC – Effects of Different Forms of Explicit Instruction (meta-analysis; สรุปผลเชิงปริมาณเกี่ยวกับการสอนแบบชัดเจน) อ่านสรุปงานวิจัย
  5. TESOL International Association – TESOL Core Certificate Program (ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร/มาตรฐานการพัฒนาครู) อ่านข้อมูล

หมายเหตุและข้อสงวนสิทธิ์

เนื้อหานี้จัดทำเพื่อการศึกษาและการฝึกทักษะภาษาอังกฤษ โดยยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ ผู้เรียนแต่ละคนอาจใช้เวลาแตกต่างกันตามความสม่ำเสมอในการฝึก และรูปแบบการเรียนที่เลือก

ผู้เขียน

ผู้เขียนเป็นผู้สอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กและผู้เริ่มจากศูนย์มากกว่า 10 ปี โฟกัสการสอนแบบ “สั้น ชัด ใช้ได้จริง” เพื่อให้ผู้เรียนสร้างประโยคได้เอง ไม่ติดการท่องอย่างเดียว

บทความที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์

Related Post

Leave A Comment

รับฟรี! คลาสเรียนภาษาอังกฤษมูลค่า 1,500 บาท

This field is required.
ฟิลด์นี้จำเป็นต้องระบุ.
Về tôi

51Talk แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เรียนผ่านแอปออนไลน์กับครูชาวต่างชาติแบบตัวต่อตัว

scroll-top