ฝึกภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกเรียนกับสถาบันไหน

ฝึกภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกเรียนกับสถาบันไหน
  • ตุลาคม 17, 2025

จุดเริ่มต้นที่ดีคือเลือกสถาบันที่มี หลักสูตรระดับ A1–A2 ชัดเจน, ครูมีใบรับรองการสอนภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ใช้ภาษาอื่น (เช่น TESOL), มีระบบวัดระดับก่อนเรียน–ระหว่างเรียน, ตารางเรียนยืดหยุ่น และมีชั่วโมงพูดกับครูเจ้าของภาษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การ ฝึกอังกฤษพื้นฐาน เดินหน้าเร็วและมั่นคงตั้งแต่วันแรก

เข้าใจเป้าหมายของผู้เริ่มต้นให้ตรงจุด

เมื่อเริ่ม เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน สิ่งที่ต้องการจริงๆ คือ “สื่อสารได้ในชีวิตประจำวัน” ไม่ใช่ท่องไวยากรณ์อย่างเดียว ดังนั้นสถาบันที่ใช่ควรตั้งเป้าตามกรอบมาตรฐานระดับต้น เช่น A1–A2 มี คอร์สอังกฤษพื้นฐาน ที่วัดผลจากสิ่งที่ทำได้จริง (can-do) เช่น แนะนำตัวเอง สั่งอาหาร ถามเส้นทาง ตอบอีเมลสั้นๆ และออกแบบบทเรียนให้ฝึกพูดทุกคาบ

อีกประเด็นคือความสม่ำเสมอ หลายคนหยุดกลางคันเพราะตารางชนงาน ทางแก้คือเลือกคอร์สที่มีคลาสสั้น 25–30 นาทีหรือบทเรียนแบบไมโคร เพื่อให้การ ภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น เดินต่อได้แม้วันที่ยุ่ง แถมต้องมีระบบบันทึกชั่วโมงฝึกพูดและแบบฝึกหัดสรุปทุกสัปดาห์

เกณฑ์คัดเลือกสถาบันที่เหมาะกับการเริ่มต้น

1) โครงสร้างหลักสูตรตามระดับ

  • มีแผน A1 → A2 ชัดเจน พร้อมวัตถุประสงค์รายบท เช่น บทเรียนภาษาอังกฤษระดับต้น เรื่องแนะนำตนเอง, ถาม–ตอบเบื้องต้น, จองที่พัก
  • มีแบบทดสอบก่อนเรียน–กลางคอร์ส–หลังเรียน เพื่อวัดพัฒนาการจริง

2) คุณวุฒิครูและการสอนที่เน้นสื่อสาร

  • ครูมีใบประกาศสอนผู้ใช้ภาษาอื่น (เช่น TESOL) และมีชั่วโมงสอนผู้เริ่มต้นจริง
  • ใช้กิจกรรมสนทนา, role play, shadowing และ feedback รายจุด เพื่อให้การ ฝึกอังกฤษพื้นฐาน จับต้องได้

3) ชั่วโมงพูดกับครูเจ้าของภาษาและโค้ชเสริม

  • อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง สำหรับบทสนทนาจริงตามสถานการณ์
  • มีโค้ชไทยคอยสรุปจุดอ่อนคำศัพท์–โครงสร้างประโยค ให้ใช้ได้คล่อง

4) รูปแบบเรียนยืดหยุ่น

  • เลือกได้ทั้งห้องเรียน, ออนไลน์, หรือไฮบริด เพื่อให้ต่อเนื่อง
  • มีคลาสชดเชย/บันทึกย้อนหลัง และแอปให้ทบทวน

5) โปร่งใสเรื่องการวัดผล

  • รายงานชั่วโมงเรียน, คะแนนพูด–ฟัง–อ่าน–เขียน และเกณฑ์ผ่านแต่ละระดับ
  • ออกใบรับรองชั่วโมงเรียนที่อ้างอิงระดับ A1–A2 ได้

ตารางเปรียบเทียบสถาบันและแพลตฟอร์มที่พบได้ในไทย

ด้านล่างเป็นตัวอย่างเพื่อช่วยตัดสินใจ (ข้อมูลรูปแบบบริการอาจปรับตามช่วงเวลา ควรตรวจสอบโดยตรงก่อนสมัคร)

ชื่อสถาบัน/แพลตฟอร์มรูปแบบจุดเด่นสำหรับผู้เริ่มต้นคุณวุฒิครูรองรับระดับเหมาะกับใคร
AUA Language Centerห้องเรียน/ออนไลน์แนวสื่อสาร เน้นฟัง–พูด เริ่มจากสถานการณ์ใกล้ตัวครูมีประสบการณ์สอนระดับต้นA1–A2ต้องการบรรยากาศห้องเรียน
British Council Thailandห้องเรียน/ออนไลน์โครงสร้างบทเรียนเป็นระบบ เน้น can-doวุฒิการสอนภาษาอังกฤษสากลA1–B1ชอบแผนเรียนละเอียด
Wall Street English (Thailand)ศูนย์การเรียน/ออนไลน์ระบบติดตามผลและชุมชนฝึกพูดครูผู้สอนผ่านการอบรมภายในA1–B1ต้องการโครงสร้างแน่น
Globish Thailandออนไลน์สดคลาสสั้น 25–30 นาที ฝึกพูดบ่อยครูผ่านมาตรฐานภายในA1–A2อยากเรียนยืดหยุ่น
51Talkออนไลน์ 1:1บทสนทนาเข้มข้น ปรับความเร็วตามผู้เรียนครูผ่านการคัดกรองและอบรมA1–B1ต้องการฝึกพูดตัวต่อตัว

หมายเหตุ: ตารางนี้ใช้เพื่อแนะแนวการตัดสินใจเท่านั้น ก่อนสมัครควรขอทดลองเรียน 1–2 ครั้งเพื่อทดสอบว่า คอร์สสำหรับมือใหม่ ตรงสไตล์การเรียนของตนเองจริง

แบบเรียนที่ควรเลือก: ห้องเรียน, ออนไลน์, ไฮบริด

เรียนในห้อง

  • ข้อดี: ปฏิสัมพันธ์สูง บรรยากาศช่วยกระตุ้นวินัย
  • ข้อจำกัด: เดินทางและเวลาตายตัว อาจยากต่อการต่อเนื่อง

เรียนออนไลน์

  • ข้อดี: ยืดหยุ่นมาก เหมาะกับ ฝึกอังกฤษพื้นฐาน ทีละน้อยแต่บ่อย
  • ข้อจำกัด: ต้องมีระบบติดตามชัดเจน ไม่อย่างนั้นหลุดง่าย

เรียนแบบไฮบริด

  • ข้อดี: ได้ทั้งโครงสร้างห้องเรียนและความยืดหยุ่นจากออนไลน์
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการความต่อเนื่องและการฝึกพูดบ่อยๆ

แผน 12 สัปดาห์ก้าวจาก A1 สู่ A2 (ตัวอย่างนำไปใช้ได้ทันที)

แผนนี้ออกแบบให้ผู้เริ่มต้น “พูดได้จริง” ภายใน 12 สัปดาห์ โดยเน้นทำซ้ำสั้นๆ ทุกวัน ควบคู่คลาสสด 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ เหมาะกับ หลักสูตรพื้นฐานอังกฤษ ในทุกสถาบัน

  1. สัปดาห์ 1–2: เสียง–ตัวสะกดพื้นฐาน, แนะนำตัว, ตัวเลข, เวลา, สรรพนาม, verb to be → เป้าหมาย: แนะนำตนเองได้ใน 30 วินาที
  2. สัปดาห์ 3–4: present simple กับกิจวัตร, คำศัพท์สถานที่, ขอ–ให้ข้อมูลพื้นฐาน → เป้าหมาย: สนทนาสั้นๆ ได้ 1–2 นาที
  3. สัปดาห์ 5–6: สั่งอาหาร, ซื้อของ, ขอความช่วยเหลือ, คำถาม WH → เป้าหมาย: ทำธุรกรรมง่ายๆ ด้วยประโยคสุภาพ
  4. สัปดาห์ 7–8: การนัดหมาย, การเดินทาง, อธิบายเส้นทาง → เป้าหมาย: ถาม–ตอบเส้นทางได้คล่องขึ้น
  5. สัปดาห์ 9–10: อีเมล/ข้อความสั้น, คำเชื่อมพื้นฐาน (and, but, because) → เป้าหมาย: เขียน 60–80 คำได้
  6. สัปดาห์ 11–12: ทบทวน, จำลองสถานการณ์จริง, สอบวัดระดับ → เป้าหมาย: เกณฑ์ A2 ด้านพูด–ฟังผ่าน

เคล็ดลับ: ตั้ง “นาทีทอง” 15 นาที/วัน สำหรับ ฝึกอังกฤษพื้นฐาน ด้วย shadowing + บันทึกเสียงตนเอง แล้วส่งให้ครู feedback ทุกสัปดาห์

วิธีประเมินผลให้ชัดเจนตั้งแต่เริ่ม

ตั้งเป้าตามสิ่งที่ “ทำได้”

  • A1: แนะนำตัว, ถาม–ตอบข้อมูลส่วนตัว, ใช้วลีพื้นฐานในบริบทคุ้นเคย
  • A2: พูดคุยกิจวัตร, อธิบายความต้องการง่ายๆ, จัดการสถานการณ์ท่องเที่ยวพื้นฐาน

เก็บหลักฐานความก้าวหน้า

  • คลิปเสียง/วิดีโอ 30–60 วินาที ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อเทียบพัฒนาการ
  • เช็กลิสต์คำ–วลีสำคัญของ คอร์สอังกฤษพื้นฐาน ที่ใช้ได้จริงในชีวิต

ใช้บททดสอบสั้นทุกสัปดาห์

  • พูดตามหัวข้อ 1 นาที, อ่านออกเสียง 10 บรรทัด, เขียน 60 คำ
  • คะแนนเน้นความชัด, ความถูกต้อง, และความคล่อง ไม่ใช่ท่องจำ

โปรไฟล์ครูที่ควรมองหาเพื่อความมั่นใจ

ตัวอย่างโปรไฟล์ครู

ครูเมย์ — ใบประกาศ TESOL, ประสบการณ์สอนผู้เริ่มต้น 10+ ปี, เชี่ยวชาญแผน ฝึกอังกฤษพื้นฐาน แบบ “พูดจริงในคลาสทุกครั้ง” ถนัดออกแบบสคริปต์สนทนาสั้นๆ ให้ผู้เรียนเอาไปใช้ได้ทันที และติดตามจุดอ่อนเป็นรายบุคคล

ครูเจมส์ — ครูเจ้าของภาษา เคยสอนในหลักสูตรระดับ A1–A2 เน้นการฟังสำเนียงนานาชาติ จัดกิจกรรม role play และให้ feedback แบบจุดต่อจุด

เช็กลิสต์คุณสมบัติครู

  • มีใบรับรองการสอนสำหรับผู้ใช้ภาษาอื่น (เช่น TESOL)
  • แสดงตัวอย่างแผนสอนและเกณฑ์ประเมินที่ชัดเจน
  • ยกตัวอย่างผลงานผู้เรียนระดับต้นที่พัฒนาได้จริง

เครื่องมือ–สื่อประกอบที่ใช้แล้วเวิร์ก

แอปและเทคนิคเสริม

  • แอปบัตรคำ: จัดหมวด 300 คำจำเป็นแรกของ A1–A2
  • เทคนิค shadowing: ฟังประโยคสั้น 6–8 คำแล้วพูดตาม พร้อมจังหวะ
  • สมุดวลีใช้จริง: รวมวลีงาน–ชีวิตประจำวัน 100 วลีแรก

สื่อวิดีโอแนะนำ

  • คลิปสั้น 1–3 นาที ฝึกออกเสียงคำยาก พร้อมสคริปต์ให้ฝึกตาม
  • วิดีโอสรุปแกรมมาร์พื้นฐานเป็นแผนภาพสำหรับ ภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น

กรณีศึกษาและผลลัพธ์จริง

เคส #1 — เริ่มจากศูนย์ถึงพูดได้ 60 วินาที

พื้นฐานเดิม: ไม่กล้าพูด, คำศัพท์น้อยกว่า 300 คำ

แนวทาง: คลาสออนไลน์ 1:1 สั้น 25 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง + shadowing 10 นาที/วัน

ผลลัพธ์หลัง 10 สัปดาห์: กล้าแนะนำตัว, เล่ากิจวัตรได้ 60–90 วินาที, เขียนอีเมลง่ายๆ ได้ 70 คำ

เคส #2 — ปรับสำเนียงและความคล่อง

พื้นฐานเดิม: อ่านได้แต่พูดช้า

แนวทาง: กลุ่มเล็ก 4 คน + เวิร์กช็อปออกเสียงสัปดาห์ละครั้ง + บันทึกเสียงส่งครู

ผลลัพธ์หลัง 12 สัปดาห์: ออกเสียงชัดขึ้น, พูดต่อเนื่อง 2 นาทีโดยไม่หยุด, ระดับ A2 ด้านพูดผ่านเกณฑ์ของคอร์ส

หมายเหตุ: ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเวลาและความสม่ำเสมอในการฝึกของแต่ละคน

เช็กลิสต์ตัดสินใจก่อนสมัคร

  • มีคอร์ส A1–A2 ชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมาย
  • ครูมีวุฒิ TESOL หรือเทียบเท่า
  • ตารางเรียนยืดหยุ่นและมีคลาสชดเชย
  • มีรายงานความก้าวหน้าเป็นรายสัปดาห์
  • ได้ทดลองเรียนฟรีก่อนสมัครจริง
  • มีชั่วโมงสนทนากับครูเจ้าของภาษา เพียงพอสำหรับ ฝึกอังกฤษพื้นฐาน

คำถามที่พบบ่อย

ต้องเรียนกี่ชั่วโมงถึงจะเริ่มสื่อสารได้

โดยทั่วไปการเรียนสั้นๆ แต่บ่อย 15–30 นาที/วัน ควบคู่คลาสสด 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้พูดประโยคพื้นฐานได้ภายใน 8–12 สัปดาห์

ควรเริ่มจากแกรมมาร์หรือคำศัพท์ก่อน

เริ่มจากวลีใช้จริง เช่น การทักทาย แนะนำตัว ขอความช่วยเหลือ แล้วค่อยเสริมโครงสร้างไวยากรณ์ที่จำเป็นตามบริบท

ถ้าออกเสียงไม่ชัดจะแก้อย่างไร

ใช้เทคนิค shadowing กับประโยคสั้น 6–8 คำ บันทึกเสียงตนเองแล้วเทียบกับต้นฉบับ รับ feedback รายสัปดาห์จะพัฒนาเร็ว

เรียนเดี่ยวหรือกลุ่มเล็กดีกว่าสำหรับมือใหม่

ถ้าต้องการความมั่นใจและการแก้จุดบกพร่องเร็ว เรียนเดี่ยวเหมาะกว่า หากอยากฝึกโต้ตอบหลายสำเนียง กลุ่มเล็กช่วยได้มาก

จะรู้ได้อย่างไรว่าขยับจาก A1 ไป A2 แล้ว

ลองทดสอบสิ่งที่ทำได้จริง: เล่าเรื่องกิจวัตร 2 นาที, เขียน 80 คำ, ทำธุรกรรมพื้นฐานเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าทำได้อย่างสม่ำเสมอถือว่าเข้าเกณฑ์ A2 ของคอร์สส่วนใหญ่

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. CEFR: ชุดตัวบ่งชี้ความสามารถ (Council of Europe)
  2. CEFR Companion Volume 2020 (Council of Europe)
  3. TESOL International Association
  4. Digital 2024: Thailand (DataReportal)
  5. บทความวิชาการ: การนำ CEFR มาใช้ในไทย (ERIC)

ประกาศความโปร่งใส: บทความนี้จัดทำเพื่อแนะแนวการเลือกสถาบันสำหรับผู้เริ่มต้น ผู้เขียนไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับหน่วยงานที่กล่าวถึง ข้อมูลบริการอาจเปลี่ยนแปลงได้ ควรตรวจสอบกับผู้ให้บริการโดยตรงก่อนตัดสินใจ

Related Post

รับฟรี! คลาสเรียนภาษาอังกฤษมูลค่า 1,500 บาท

This field is required.
ฟิลด์นี้จำเป็นต้องระบุ.
Về tôi

51Talk แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษที่คุณพ่อคุณแม่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกให้ความไว้วางใจ เรียนผ่านแอปออนไลน์กับครูชาวต่างชาติแบบตัวต่อตัว

scroll-top